แม้โรคหัวใจ จะพบมากในผู้สูงอายุ แต่ในปัจจุบันกลับพบว่าคนที่อายุยังน้อยหรือวัยรุ่นก็มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้มากเช่นกัน บางคนอายุแค่ 30 – 35 ปี ก็เป็นโรคหัวใจแล้ว ส่วนใหญ่มักเกิดจากความผิดปกติที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิด รวมทั้งเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต การไม่ดูแลสุขภาพที่ทำให้เสี่ยงเป็นโรคหัวใจ ฉะนั้นการลด ละ เลี่ยง พฤติกรรมที่เกิดขึ้นจากตัวเองก็สามารถลดความเสี่ยง หรือป้องกันการเกิดโรคหัวใจในอนาคตได้
ปัจจุบัน โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นสาเหตุอันดับหนึ่ง ที่คร่าชีวิตพลเมืองโลกมากที่สุด การรักษาทางการแพทย์ที่กล่าวมาแล้วข้างต้นทั้งหมดไม่ใช่วิธีการที่จะช่วยรักษาให้โรคหายขาดหรือยืนยันว่าโรคจะไม่กลับมาเป็นซ้ำ เพราะฉะนั้นผู้ที่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด แม้จะได้รับการรักษาด้วยการทำหัตถการขยายหลอดเลือด (Percutaneous Coronary Intervention) หรือการผ่าตัดต่อเส้นเลือด (Coronary Bypass Surgery)แล้วก็ตาม ทางการแพทย์แผนปัจจุบันจะให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เช่น เลือกอาหารให้ถูกต้อง ออกกำลังกาย ลดความเครียด และเน้นการลดระดับไขมัน โคเลสเตอรอลตัวร้าย LDL การรับประทานยาต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการก่อตัวของลิ่มเลือด และช่วยปรับเปลี่ยนปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
พฤติกรรมเสี่ยงโรคหัวใจ
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้หลอดเลือดหัวใจเสื่อมสภาพ เกิดได้จาก 2 ปัจจัย ได้แก่ 1. ปัจจัยเสี่ยงทางร่างกายที่สามารถป้องกันได้ คือโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และการสูบบุหรี่ 2.พันธุกรรม ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ป้องกันหรือแก้ไขไม่ได้ แต่การป้องกันโรคดีและสำคัญกว่าการรักษาโรค โดยห่างไกลได้ด้วยการเลี่ยง 5 พฤติกรรมเหล่านี้
เปลี่ยนพฤติกรรมในการดำรงชีวิตเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ดูเพิ่มเติมที่นี่ https://doctorathome.com/disease-conditions/252