แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 43
31
รถรับจ้างขนของจังหวัดลำปาง บริการที่เป็นเลิศ เพราะเรารู้ลึกรู้รอบรู้จริงเกี่ยวกับการรับงานทุกชนิด ทำให้ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ต่างติดใจและกลับมาใช้ บริการรถรับจ้างขนของ ของเราอีกให้เป็นเจ้าประจำกันเป็นจำนวนมาก ทั้ง รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้าง รถสิบล้อรับจ้าง รถรับจ้างขนของทั่วไป จะย้ายบ้าน ย้ายที่พัก หอพัก หรือขนย้ายสินค้าทางการเกษตร เฟอร์นิเจอร์ เครื่องจักรเป็นต้น การบริการของเราตลอดระยะเวลากว่า 10ปี  สิ่งนี้เป็นเครื่องหมายยืนยันคุณภาพการทำงานของรถรับจ้างขนของจังหวัดลำปางเป็นอย่างดี

รถรับจ้างขนของจังหวัดลำปางเปิดบริการทุกวันมั้ย?

รถรับจ้างขนของจังหวัดลำปาง มีการให้บริการกันทุกวัน ตลอดทั้งวัน 24 ชม.โดยผู้คนในพื้นที่มักจะเรียกให้รถรับจ้างขนย้ายจังหวัดลำปางไปส่งสิ่งของ สินค้า ขนของ โดยไม่มีวันหยุด บริการด้วยใจและราคาเป็นกันเองสุดๆ ทำให้เราครองใจชาวลำปางได้เป็นอย่างดี ด้วยบริการที่เป็นเลิศไม่มีขาดตกบกพร่องสิ่งใด โดยบริการอย่างดีที่สุด เพื่อคุณผู้ใช้บริการโดยเฉพาะ


รถรับจ้างขนของจังหวัดลำปาง ทำไมถึงได้เป็นผู้นำการบริการ

รถรับจ้างขนของจังหวัดลำปาง ของเราถือได้ว่าเป็นผู้นำในเรื่องรถรับจ้างที่หลากหลายและมีขนาดใหญ่โดยมีรถรับจ้างจำนวนหลายประเภทไว้คอยให้บริการพร้อมทีมงานที่ผ่านการฝึกฝนและมีประสบการณ์การทำงานกันทุกคน เรียกว่าได้รับคำชมจากผู้ใช้บริการอย่างมากมาย โดยเสียงชื่นชมต่างกล่าวว่า ที่นี่ทำงานดี ส่งถึงจุดหมายปลายทาง วันหลังจะมาใช้บริการอีก ซึ่งทางรถรับจ้างขนของจังหวัดลำปางน้อมรับคำชมด้วยความขอบคุณยิ่ง


ประสิทธิภาพสูงกับรถรับจ้างขนของจังหวัดลำปาง

รถรับจ้างขนของจังหวัดลำปางเป็นหนึ่งเรื่องความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยสามารถเสร็จงานได้ตามเวลาที่กำหนดและไม่มีข้าวของแตกหักหรือสูญหายระหว่างทางแต่อย่างใด เพราะรถรับจ้างขนของจังหวัดลำปางมีระบบป้องกันและเซฟของเป็นอย่างดีในรถแต่ละคัน คุณจึงหายห่างเมื่อใช้บริการกับรถรับจ้างขนของจังหวัดลำปาง


รถรับจ้างขนของจังหวัดลำปางให้บริการอย่างมืออาชีพ

รถรับจ้างขนของจังหวัดลำปาง เราให้บริการอย่างมืออาชีพเพราะทำงานกันมานาน รับใช้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดลำปางจนเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ทั้งการบริการและเรื่องราคาที่ถูกและเป็นกันเองด้วยอัธยาศัยไมตรี ซึ่งใครได้ใช้บริการรถรับจ้างขนของจังหวัดลำปางต่างประทับใจและเมื่อมีโอกาสก็มักจะเรียกใช้ บริการรถรับจ้างขนของ จังหวัดลำปางด้วยดีเสมอมา

ความพร้อมของรถรับจ้างจังหวัดลำปางของเรา

รถรับจ้างจังหวัดลำปาง มีการฝึกสอนทีมงานที่เข้ามาใหม่ให้รู้จักวิธีการขึ้นของและมัดของอย่างไรให้ปลอดภัย โดยพี่เลี้ยงจะเป็นรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์คอยฝึกให้อย่างใกล้ชิด จนกลายเป็นมืออาชีพไปในที่สุด จึงเห็นได้ว่ารถรับจ้าง เราเน้นเป็นพิเศษทั้งเรื่องคนเรื่องการบริการ อีกทั้งยังดูแลรักษารถรับจ้างทุกคันให้พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา

คุณสามารถติดต่อเราได้ง่ายๆและได้ทุกวัน เรามีผู้คอยประสานงานและมีเจ้าหน้าที่คอยรับบริการเบื้องต้น เสนอราคา สอบถามรายละเอียดการขนย้าย การนัดวันเวลาการขนย้าย ท่านสามารถโทรหาเราได้เลย


อยากรู้เรื่อง รถรับจ้าง ราคารถ สอบถามมาเลย เรายินดีให้ข้อมูล

จุดจอดรถและจุดให้บริการ รถรับจ้างขนของลำปาง ในจุดต่างๆ

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ เมืองลำปาง

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ เกาะคา

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ งาว

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ แจ้ห่ม

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ เถิน

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ แม่ทะ

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ แม่พริก

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ เมืองปาน

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ แม่เมาะ

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ วังเหนือ

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ สบปราบ

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ เสริมงาม

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ ห้างฉัตร

ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านจากใจ ขนส่งด้วยนะคะ บริการ รถรับจ้างขนของจังหวัดลำปาง ของเราสัญญาว่าจะดูแลสินค้าของท่านให้ดีที่สุด คุ้มค้ากับเงินของท่านให้มากที่สุด ขอบคุณนะคะ

รถรับจ้างขนของเชียงใหม่ รถรับจ้างขนของจังหวัดลำปาง กับการบริการรับจ้างขนของเป็นเลิศ  อ่านบทความเพิ่มเติมคลฺิ๊กที่นี่ https://www.rodrubjang-youservice.com/category/105

32

ความดันโลหิต คืออะไร?

ความดันโลหิต หมายถึง แรงดันของกระแสเลือดที่กระทบต่อผนังหลอดเลือดแดงที่เกิดจากการสูบฉีดเลือดของหัวใจ ส่วน ‘ความดันโลหิตสูง’ มีสาเหตุมาจากการที่หลอดเลือดแดงเสื่อมสภาพ ซึ่งนำไปสู่ภาวะการแข็งตัวและการตีบตันของหลอดเลือด ภาวะนี้เป็นตัวบ่งชี้ที่สัมพันธ์กับการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไต และโรคอื่นๆ ในระบบการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด ทั้งนี้ ความดันโลหิตสูงอาจเกิดจากพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสม การออกกำลังกายที่ไม่เพียงพอ การมีน้ำหนักตัวที่มากเกินไปหรือเป็นโรคอ้วน การสูบบุหรี่ รวมถึงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ

เป็น “โรคความดันโลหิตสูง” หรือยัง วัดจากอะไร?

การจะรู้ว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูงหรือไม่นั้น ต้องวัดความดันโลหิตด้วยเครื่องวัดความดัน โดยค่าความดันที่ได้จะมีอยู่ 2 ค่า คือ

    ค่าความดันตัวบน ซึ่งเกิดจากแรงดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัว
    ค่าความดันตัวล่าง ซึ่งเกิดจากแรงดันโลหิตขณะหัวใจคลายตัว

เกณฑ์ความรุนแรงของภาวะความดันโลหิตสูง ในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปี ขึ้นไป

ประเภท                                              ความดันโลหิตตัวบน (mm/Hg) และ ความดันโลหิตตัวล่าง (mm/Hg)

ความดันโลหิตปกติ                                 < 120 และ < 80

ความดันโลหิตปกติที่ค่อนไปทางสูง              120-129 และ < 80

ความดันโลหิตสูงระดับที่ 1                        130-139 และ/หรือ 80-89

ความดันโลหิตสูงระดับที่ 2                        ≥ 140 และ/หรือ ≥ 90

ความดันช่วงบนสูงเดี่ยว                             ≥ 140 และ < 90


วิธีลดความเสี่ยงการเกิดโรคความดันโลหิตสูง


การดูแลตนเองเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคความดันโลหิตสูง สามารถทำได้โดยการใส่ใจสุขภาพและลดพฤติกรรมบางอย่าง เช่น


การกินอาหาร

    ลดการกินอาหารโซเดียมสูง เช่น อาหารแปรรูป อาหารปรุงสำเร็จ เบเกอร์รี และพิจารณาฉลากโภชนาการก่อนซื้อ โดยเลือกชนิดที่มีโซเดียมต่ำ สำหรับการปรุงอาหารเองควรลดการใส่เครื่องปรุงรสต่างๆ
    ลดการกินอาหารไขมันสูง เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน อาหารทอดหรือผัดน้ำมัน กะทิ โดยไม่ควรกินเกิน 30% ของปริมาณอาหารในแต่ละมื้อ และควรเลือกใช้น้ำมันที่ดีต่อสุขภาพในการประกอบอาหาร เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว
    ลดการกินอาหารน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน น้ำหวานชงดื่ม ไอศกรีม ผลไม้รสหวาน เพราะน้ำตาลส่วนเกินจะถูกเก็บสะสมไว้ในรูปของไขมัน ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะไขมันในเลือดสูงและนำไปสู่การเกิดโรคความดันโลหิตสูงได้ในที่สุด 
    เพิ่มการกินผักและผลไม้ไม่หวานให้มากขึ้น โดยให้มีสัดส่วนเป็นครึ่งหนึ่งในแต่ละมื้ออาหาร


การออกกำลังกาย

การออกกำลังกาย มีส่วนสำคัญอย่างมากในการป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง เช่น

    การออกกำลังกายแบบแอโรบิก (aerobic exercise) ไม่ว่าจะเป็นการเดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ หรือเล่นกีฬาชนิดต่างๆ ที่มีการกระตุ้นให้หัวใจทำงานหนักกว่าปกติอย่างต่อเนื่องมากกว่า 20 นาทีขึ้นไป เพราะจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับหลอดเลือดและกล้ามเนื้อหัวใจ จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูงได้
    การออกกำลังกายแบบโยคะ (yoka exercise) นอกจากจะช่วยสร้างความสมดุลให้กับร่างกายแล้ว ยังช่วยลดความเครียด ซึ่งส่งผลดีต่อหลอดเลือดและความดันโลหิต

ทั้งนี้ ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอให้ได้อย่างน้อย 3-5 ครั้ง หรือรวม 150 นาทีต่อสัปดาห์ เพราะจะช่วยทั้งในเรื่องการควบคุมน้ำหนัก การลดระดับน้ำตาลในเลือด และการลดความดันโลหิต สำหรับผู้ที่จะเริ่มต้นออกกำลังกายหลังจากหยุดไปนาน โดยเฉพาะผู้มีโรคประจำตัวหรือผู้สูงวัย ควรได้รับการตรวจสุขภาพและปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงต่ออันตรายที่อาจเกิดขึ้น


งดการสูบบุหรี่

เพราะการสูบบุหรี่ เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบของหลอดเลือดที่นำไปสู่การตีบตันของหลอดเลือด โดยเฉพาะสารติโคติน (nicotine) ในบุหรี่ จะทำให้หลอดเลือดหดตัว สูญเสียความยืดหยุ่น จนทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ให้เพียงพอ จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้


งดการดื่มแอลกอฮอล์

เพราะการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนแอลโดสเตอโรน (aldosterone) สูงขึ้น ทำให้ร่างกายมีการสะสมน้ำและโซเดียมมากกว่าปกติเป็นประจำ จนในที่สุดก็จะเกิดโรคความดันโลหิตสูงได้ ดังนั้น หากจำเป็นต้องดื่มเพื่อเข้าสังคม ในแต่ละวันผู้หญิงไม่ควรดื่มเกิน 1-2 หน่วย และผู้ชายไม่ควรดื่มเกิน 2-3 หน่วย โดย 1 หน่วยจะเท่ากับ 12 ออนซ์ของเบียร์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ 5% หรือ 5 ออนซ์ของไวน์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ 12%

โดยทั่วไปแล้ว ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ จะป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุและไม่มีอาการเตือนล่วงหน้า ทำให้กว่าจะพบโรคก็อาจเป็นในระยะที่รุนแรงแล้ว เราทุกคนจึงควรดูแลตัวเองด้วยการกินอาหารที่เหมาะสม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และงดหรือลดปัจจัยต่างๆ ที่จะก่อให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง รวมถึงควรตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อให้รู้เท่าทันความเสื่อมของร่างกาย และรู้ว่าเรากำลังมีความเสี่ยงของโรคอะไรอยู่บ้าง จะได้รีบป้องกันหรือทำการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ


วิธีลดความเสี่ยงการเกิดโรคความดันโลหิตสูง อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/disease-conditions/247

33
ตั้งแต่อดีตสู่ปัจจุบัน มีการพัฒนาเป็นอย่างมากสำหรับการรักษาและนวัตกรรมด้านทันตกรรม โดยเฉพาะ การรักษาด้วยการจัดฟัน ซึ่งถือว่ามีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาทางด้านนี้เป็นจำนวนมากไม่แพ้การรักษาทันตกรรมด้านอื่นๆ

ซึ่งนวัตกรรมด้านการจัดฟัน ถือว่าเติบโตรวดเร็วจากการวิจัยและศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทราบว่าการรักษาทางทันตกรรมด้วยวิธีการจัดฟันนั้น มีข้อดีต่างๆมากมาย แต่ต้องขอบอกเลยว่าแม้การรักษาด้วยการจัดฟันนั้นจะเป็นวิธีที่ดีมากๆเพียงใดก็ตามแต่หากว่าท่านไม่ดูแลรักษา หรือทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างเคร่งครัด ท่านก็อาจจะมีโอกาสเสี่ยงต่างๆได้เช่นกัน

ซึ่งในวันนี้ทางด้าน Clinic ผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมกว่า 15 ปี โดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง จะขอมาอธิบายถึงอาการแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการจัดฟัน เพื่อให้รู้จักป้องกันและแก้ไข โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

อาการแทรกซ้อนจากการจัดฟัน ?

ต้องขอบอกเลยว่า การรักษาไม่ว่าจะรักษาอะไรก็ตาม จะต้องมีปัจจัยเสี่ยงอยู่เสมอ เพราะ ไม่มีการรักษาใดๆในโลกที่มีแต่ข้อดี 100% ทุกการรักษาต้องมีปัจจัยเสี่ยงและข้อจำกัดด้วยกันทั้งสิ้น ผู้ที่จะเข้ารับการรักษาจึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องศึกษาปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ดังต่อไปนี้

– มีความเสี่ยงในการเกิดฟันผุ โรคเหงือก และที่พบมากคือการเกิดจุดด่างขาวบนผิวเคลือบฟัน ซึ่งอาการเหล่านี้มักเกิดจากการที่ผู้ป่วยรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากเกินไป และไม่ได้ทำความสะอาดด้วยวิธีที่ถูกต้องอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้แม้ว่าไม่ได้ทำการจัดฟันก็เกิดขึ้นได้ แต่ต้องยอมรับว่าผู้ที่ใส่อุปกรณ์จัดฟันจะมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น

– ในผู้ป่วยที่ทำการรักษาด้วยการจัดฟันบางราย อาจจะเกิดปัญหารากฟันลดลงในขณะที่ทำการจัดฟัน ซึ่งโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่จะไม่มีผลกระทบใดๆต่อประสิทธิภาพการบดเคี้ยวอาหาร

– อย่างที่ทราบกันดีว่าการจัดฟันเป็นการบังคับให้ฟันเคลื่อนที่ไปอยู่ในจุดที่ต้องการ แต่การเคลื่อนฟันนั้นอาจจะส่งผลกระทบต่อเหงือกและสุขภาพของกระดูกที่ลองรับฟันของบางคนที่ดูแลสุขภาพฟันหรือกำจัดจุลินทรีย์ในช่องปากไม่หมด ช่องปากไม่สะอาด ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาการเหงือกอักเสบได้

– หลังจากที่จัดฟันเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ควรใส่เครื่องมือคงสภาพฟันอย่างสม่ำเสมอ เพราะหากว่าละเลยอาจจะส่งผลให้เกิดฟันผิดรูปดังเดิมได้ ซึ่งรวมถึงพฤติกรรมบางอย่างเช่น การหายใจทางปาก การเล่นดนตรีเครื่องเป่าเป็นประจำ การงอกขึ้นของฟันคุด เป็นต้น และพฤติกรรมเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทันตแพทย์ไม่สามารถควบคุมได้

– ในบางกรณีอาจจะส่งผลถึงข้อต่อขากรรไกร ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการปวดที่ข้อต่อดังกล่าว รวมถึงปวดศีรษะ ปวดในหู ซึ่งหากว่ามีอาการเหล่านี้ควรรีบบอกทันตแพทย์โดยด่วน

– สำหรับผู้ป่วยที่เคยประสบอุบัติเหตุเกี่ยวกับฟัน หรือเคยมีฟันผุลึกมากๆ การเคลื่อนตัวของฟันในขณะที่จัดฟันอาจจะมีผลกระทบต่อเส้นประสาท ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำให้ทำการรักษารากฟันให้เป็นปกติเสียก่อน

– เครื่องมืออุปกรณ์จัดฟัน อาจส่งผลให้เกิดการระคายเคือง หรืออาจจะเกิดแผลบริเวณเหงือก แก้ม และริมฝีปากได้ ซึ่งถือว่าเป็นปกติ

– อุปกรณ์จัดฟันอาจจะมีโอกาสเสี่ยงในการหลุดได้ในบางราย ซึ่งหากว่าอุปกรณ์จัดฟันหลุดหรือหัก ให้รีบเข้าพบทันตแพทย์ผู้ที่ทำการรักษาโดยด่วน

– ในผู้ป่วยที่จัดฟันเพื่อแก้ไขการซ้อนเก จำเป็นที่จะต้องถอนฟันบางซี่ออกเสียก่อน เพื่อแก้ไขการไม่สมดุลของโครงสร้างขากรรไกร

– ไม่อาจกำหนดระยะเวลาในการจัดฟันได้แน่นอน ขึ้นอยู่กับการเจริญเติบโตของกระดูกที่น้อยหรือมากกว่าปกติ ความร่วมมือของผู้ป่วยที่เข้ารับการจัดฟัน การรักษาความสะอาดในช่องปาก การผิดนัดหมายของทันตแพทย์ ล้วนแต่มีผลกับระยะเวลาในการจัดฟันทั้งสิ้นการที่ใช้เวลาเพิ่มมากขึ้นในการรักษา ส่งผลต่อผลการรักษาด้วยเช่นกัน

 

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็คือ อาการแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้หรืออาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ตัวผู้ป่วยในเรื่องของการดูแลรักษาความสะอาด และระเบียบวินัยต่างๆนั่นเองที่จะช่วยลดโอกาสการเกิดอาการแทรกซ้อนเหล่านั้นได้




อาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ จากการจัดฟัน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

34
โน้ตบุ๊กหลายๆ แบรนด์ในยุคนี้เริ่มขยับมาใช้จอพาเนล OLED กันมากขึ้นแล้วนะครับ เนื่องจากให้การแสดงผลที่ดีกว่าพาเนลแบบ IPS เพราะเม็ดพิกเซลของพาเนลสามารถเปล่งแสงได้ด้วยตัวเอง เช่น ถ้าส่วนไหนเป็นภาพส่วนมืด ก็จะไม่เปล่งแสงออกมา ทำให้แสดงผลออกมาได้มืดสนิท และถ้าแสดงผลส่วนมือมาก ทำให้ประหยัดพลังงานไปมากขึ้น แต่ทางกลับกัน ถ้าแสดงผลส่วนสว่างอย่างสีขาวมาก ก็จะใช้พลังงานมากขึ้นตาม นอกจากนี้ยังเหมาะกับคนทำงานสายกราฟิกหรือแต่งรูปด้วย เพราะให้ขอบเขตสีที่กว้างมากๆ อย่าง DCI-P3 ทำให้สีตรงตามมาตรฐาน
 
หากใครทำงานที่ต้องเน้นสีสันสดใส หรือนำไปรับชมความบันเทิงก็ตอบโจทย์ครับ และวันนี่จะมาแนะนำโน้ตบุ๊กจอ OLED ราคาจับต้องได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาทกันครับ จะมีรุ่นไหนน่าสนใจ บ้างเราไปดูกันครับ 
 
1. Asus Vivobook 15X D3504YA-L1707WS (ราคาปัจจุบัน 23,490 บาท)

Asus Vivobook 15X D3504YA-L1707WS (ราคาปัจจุบัน 23,490 บาท)
เป็นโน้ตบุ๊กจอ OLED ที่ราคาน่าสนใจครับ เพราะเป็นรุ่น Vivobook มีหน้าจอใหญ่ 15 นิ้ว พาเนล OLED ความละเอียดสูง 2.8K, 60Hz, 100% DCI-P3 ขอบเขตสีกว้างมาก รองรับ VESA CERTIFIED Display HDR True Black และ PANTONE Validated ทำให้แสดงผลสีสีนได้สมจริง ด้านซีพียูใช้เป็น AMD Ryzen 7 7730U รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นรหัส U จะรุ่นเน้นประหยัดพลังงาน เหมาะกับการใช้ทั่วไป, งานเอกสาร, ทำพรีเซนต์ หรือ Adobe photoshop, Canva ได้ มีแรม 16GB, SSD 512GB 
ตัวเครื่องบางเบามีน้ำหนัก 1.6 kg ถือว่าไม่หนักจนเกินไป มี NumPad มาให้ ด้าน Webcam ความละเอียด 720p อาจจะน้อยไปเล็กน้อย แต่ว่าพอใช้ได้ครับ มี privacy shutter สามารถปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวได้ พร้อมรองรับสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคหน้าจอ
สเปก Asus Vivobook 15X D3504YA-L1707WS
- หน้าจอ: 15.6" OLED 2.8K (2880x1620) 60Hz, 100% DCI-P3, VESA CERTIFIED Display HDR True Black 600, 1.07 billion colors, PANTONE Validated
- CPU: AMD Ryzen 7 7730U (2.00 GHz up to 4.50 GHz, 16MB L3 Cache) 8 P-Cores / 16 Threads
- GPU: AMD Radeon RX Vega 8
- RAM: 16GB DDR4 3200Mhz
- Storage: SSD 512GB PCIe M.2 Gen 3
- พอร์ตเชื่อมต่อ
       1x USB 2.0 Type-A
       2x USB 3.2 Gen 1 Type-A
       1x USB 3.2 Gen 1 Type-C
       1x HDMI 1.4-out
       1x Headphone/mic combo
- Webcam: HD 720p With privacy shutter
- Battery: 3-Cell Li-ion, 50WHrs, 65W AC Adapter, Support PD Charge
- Wi-Fi 6E
- Bluetooth 5.3
- รองรับสแกนลายนิ้วมือ
- Weight: 1.6 kg
- Windows 11 Home
- ประกัน 2 ปี


2. Asus Zenbook 14 OLED UM3402YA-KM537WS (ราคา 28,990 บาท)
สำหรับรุ่น Asus Zenbook 14 OLED เป็นรุ่นที่พรีเมียมขึ้นมาอีกครับ เน้นดีไซน์ที่เรียบหรู บางเบา พกพาได้สะดวก โดยมีน้ำหนัก 1.35 kg สามารถใส่กระเป๋าเป้สะพายเดินทางได้โดยไม่รู้สึกหนักครับ ด้านแป้นตัวเลข NumPad ไม่ได้มีเป็นปุ่มมาให้ แต่จะอยู่บริเวณ TouchPad ครับ การใช้งานอาจต้องปรับตัวเล็กน้อย เพราะไม่ได้ให้สัมผัสแบบปุ่มครับ
หน้าจอมาในขนาด 14 นิ้ว พาเนล OLED ความละเอียดสูง 2.8K รีเฟรชเรตลื่น 90Hz รองรับ VESA CERTIFIED Display HDR True Black และ PANTONE Validated ทำให้แสดงผลสีสีนได้สมจริง ด้านซีพียูมาพร้อม AMD Ryzen 5 7530U, GPU: AMD Radeon RX Vega 7 เป็นรหัส U จะรุ่นเน้นประหยัดพลังงาน เหมาะกับการใช้ทั่วไป, งานเอกสาร, ทำพรีเซนต์ หรือ Adobe photoshop, Canva ได้ มีแรม 16GB, SSD 512GB 
ด้าน Webcam ให้ความละเอียด FHD 1080p ถ่ายได้ชัด มีพอร์ต Micro SD card reader และ รองรับ Fingerprint
สเปก Asus Zenbook 14 OLED UM3402YA-KM537WS
- หน้าจอ: 14" OLED 2.8K (2880x1800) 90Hz, 100% DCI-P3, VESA CERTIFIED Display HDR True Black 600, 70% less harmful blue light
- CPU: AMD Ryzen 5 7530U (2.00 GHz up to 4.50 GHz, 16MB L3 Cache), 6 (P-Core)
- GPU: AMD Radeon RX Vega 7
- RAM: 16GB LPDDR4x
- Storage: SSD 512GB PCIe M.2 Gen 3
- พอร์ตเชื่อมต่อ
       1x USB 3.2 Type A
       2x USB 3.2 Type C
       1x HDMI
       1x Micro SD card reader
- Webcam: FHD 1080p
- Battery: 4-Cell Li-ion, 75WHrs, 65W AC Adapter, Support PD Charge
- Wi-Fi 6E
- Bluetooth 5.2
- รองรับ Fingerprint
- Weight: 1.35 kg
- Windows 11 Home
- รับประกัน 3 ปี


3. Asus Vivobook S 14 OLED S5404VA-M9570WS (ราคาปัจจุบัน 28,990 บาท)

สำหรับรุ่นนี้จะมีสเปกที่แรงขึ้นมากกว่าเพื่อนครับ ด้วยพลังซีพียู Intel Core i5-13500H, GPU: Intel Iris Xe Graphics G7 มีแรม 16 GB LPDDR5 5200Mhz, SSD 512GB PCIe M.2 Gen 4 ทำให้สามารถนำไปทำงานตัดต่อ ทำกราฟิกได้สบาย เพราะด้วยซีพียูรหัส H จะเป็นรุ่นประสิทธิภาพสูง แต่หากนำไปเล่นเกมอาจยังไม่เหมาะครับ อาจเล่นเกมที่ไม่กินสเปกได้บ้าง เพราะไม่มีการ์ดจอแยกครับ
หน้าจอมีขนาด 14.5 นิ้ว พาเนล OLED ความละเอียดสูง 2.8K รีเฟรชเรตสูง 120Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3, PANTONE Validated และมี SGS Eye Care Display ถนอมสายตา
ด้านกล้อง Webcam ให้ความละเอียด 1080p FHD รองรับสแกนลายนิ้วมือ มีช่องหูฟัง และน้ำหนักตัวเครื่องเบา 1.5 kg พกพาได้สะดวกครับ
สเปก Asus Vivobook S 14 OLED S5404VA-M9570WS
- หน้าจอ: 14.5" OLED 2.8K (2880x1800) 120Hz, 100% DCI-P3, PANTONE Validated, SGS Eye Care Display
- CPU: Intel Core i5-13500H (2.60 GHz, 18 MB L3 Cache, up to 4.70 GHz), 4 (P-Core) / 8 (E-Core) / 16 Threads
- GPU: Intel Iris Xe Graphics G7
- RAM: 16 GB LPDDR5 On Board 5200Mhz
- Storage: SSD 512GB PCIe M.2 Gen 4
- พอร์ตเชื่อมต่อ
       1x USB 2.0
       1x USB 3.2 Type A
       1x HDMI
       1x Thunderbolt 4
       1x 3.5mm Audio combo
- Webcam: 1080p FHD
- Weight:  1.5 kg
- Battery: 4-Cell Li-ion, 75Wh, 90W AC Adapter
- Wi-Fi 6E
- Bluetooth 5.1
- รองรับสแกนลายนิ้วมือ
- Windows 11 Home + Microsoft Office Home & Student 2021
- รับประกัน 2 ปี
 

4. Acer Swift Edge SFA16-41-R8KA (ราคาปัจจุบัน 25,990 บาท)

มาดูรุ่นจากทาง ACER กันบ้างครับ จัดเต็มด้วยจอความละเอียดสูงระดับ 4K ขนาดหน้าจอใหญ่ 16 นิ้ว พาเนล OLED รีเฟรชเรต 60Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 สามารถนำไปรับชมความบันเทิง ดูหนังได้อย่างเต็ฒอรรถรสเลยครับ
ด้านซีพียูเป็น AMD Ryzen 5 6600U, GPU: AMD Radeon 660M มีแรม 16GB LPDDR5 On Board 6400Mhz, SSD  1TB PCIe M.2 Gen 4 สามารถใช้งานทั่วไปได้ดี เช่น งานเอกสาร, ดูหนัง ฟังเพลง, ทำงานกราฟิก ถ้านำไปเล่นเล่นเกมก็สามารถเล่นเกมไม่กินสเปกได้บ้างครับ
ด้านกล้องมีความละเอียด 1080p FHD คมชัด มีช่องหูงฟัง 3.5 มม. รองรับสแกนลายนิ้วมือ และตัวเครื่องมีน้ำหนักที่เบามาก 1.17 kg เหมาะกับคนที่พกพาเดินทางทุกวันครับ
สเปก Acer Swift Edge SFA16-41-R8KA
- หน้าจอ: 16" OLED 4K (3840x2400) 60Hz, 100% DCI-P3, TÜV RHEINLAND Eyesafe
- CPU: AMD Ryzen 5 6600U (2.90 GHz up to 4.50 GHz, 16MB L3 Cache), 6 (P-Core) / 12 Threads
- GPU: AMD Radeon 660M
- RAM: 16GB LPDDR5 On Board 6400Mhz
- Storage: SSD  1TB PCIe M.2 Gen 4
- พอร์ตเชื่อมต่อ
       2x USB 3.2 Type A
       2x USB 3.2 Type C
       1x HDMI
       1x 3.5mm Audio Combo
- Webcam: FHD 1080p
- Weight: 1.17
- Battery: 3-Cell Li-ion, 54Wh, 65W AC Adapter
- Wi-Fi 6E
- Bluetooth 5.2
- รองรับสแกนลายนิ้วมือ
- Windows 11 Home + Microsoft Office Home & Student 2021
- รับประกัน 3 ปี
 

5. Acer Swift Edge SFE16-42-R394 (ราคาปัจจุบัน 29,990 บาท)

รุ่นนี้ก็จัดเต็มไม่แพ้กันด้วย จอใหญ่ 16 นิ้ว พาเนล OLED ความละเอียดสูงระดับ 4K รีเฟรชเรต 60Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 นำไปทำงานกราฟิก แต่งภาพได้สบายครับ
ด้านซีพียูเป็น AMD รุ่นใหม่ Ryzen 5 7535U, GPU: AMD Radeon 660M มีแรม 16 GBLPDDR5 On Board 6400Mhz, SSD 1TB PCIe M.2 Gen 4 สามารถใช้งานทั่วไปได้สบายๆ ดูหนัง/Netflix, ฟังเพลง, ทำงานเอกสาร, ทำพรีเซนต์, แต่งภาพ, ทำงานกราฟิก ได้ดีครับ
ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบามากที่ 1.17 kg พกพาได้ง่าย มีกล้อง Webcam 1080p FHD คมชัด รองรับสแกนลายนิ้วมือ และมีช่องหูฟัง 3.5 mm
สเปก Acer Swift Edge SFE16-42-R394
- หน้าจอ: 16" OLED 4K (3840x2400) 60Hz, 400 nits, 100% DCI-P3
- CPU: AMD Ryzen 5 7535U (2.90 GHz up to 4.55 GHz, 16MB L3 Cache), 6 (P-Core) / 12 Threads
- GPU: AMD Radeon 660M
- RAM: 16 GBLPDDR5 On Board 6400Mhz
- Storage: SSD 1TB PCIe M.2 Gen 4
- พอร์ตเชื่อมต่อ
       2x USB 3.2 Type A
       2x USB 3.2 Type C
       1x HDMI
       1x 3.5mm Audio Combo Jack
- Webcam: 1080p FHD
- Weight: 1.17 kg
- Battery: 3-Cell Li-ion (54Wh), USB Type-C 65 W PD AC adaptor
- Wi-Fi 6E
- Bluetooth 5.2
- รองรับสแกนลายนิ้วมือ
- Windows 11 Home
- รับประกัน 3 ปี

สรุป
สำหรับใครที่ต้องการโน้ตบุ๊กที่เน้นสเปกหน้าจอดีๆ พาเนล OLED สีสันสวยงาม ความละเอียดสูง 2.8K - 4K ในงบไม่เกิน 30,000 บาท ก็จะมี 5 รุ่นที่แนะไปครับ ซึ่งสามารถนำไปทำงานแต่งภาพ, ทำภาพกราฟิก Artwork หรือ ใช้งานทำภาพโปรแกรม Adobe ก็ทำได้ดีครับ หากใครยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อรุ่นไหนดี เดี๋ยวจะสรุปสั้นๆ ให้อีกครั้งครับ
 
สำหรับคนที่ต้องการงบประหยัดที่สุด
- Asus Vivobook 15X D3504YA-L1707WS (ราคาปัจจุบัน 23,490 บาท)
 
สำหรับคนที่ต้องการหน้าจอคมชัดและน้ำหนักเบาที่สุด
- Acer Swift Edge SFA16-41-R8KA (ราคาปัจจุบัน 25,990 บาท)
- Acer Swift Edge SFE16-42-R394 (ราคาปัจจุบัน 29,990 บาท)
ได้หน้าจอ 4K
 
สำหรับคนที่ต้องการหน้าจอรีเฟรชเรตลื่น
- Asus Vivobook S 14 OLED S5404VA-M9570WS (ราคาปัจจุบัน 28,990 บาท)
ได้หน้าจอรีเฟรชเรต 120Hz
Asus Zenbook 14 OLED UM3402YA-KM537WS (ราคา 28,990 บาท)
ได้หน้าจอรีเฟรชเรต 90Hz
 
สำหรับคนที่ต้องการรุ่นที่ตัดต่อวิดีโอได้
- Asus Vivobook S 14 OLED S5404VA-M9570WS (ราคาปัจจุบัน 28,990 บาท)
ใช้ซีพียู Intel Core i5-13500H
 

mobile expo 2024: ชี้เป้า 5 โน้ตบุ๊กจอ OLED สีสวย คมชัด 2K - 4K ในงบไม่เกิน 3 หมื่น! อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/mobileexpo/

35
การสูบบุหรี่เป็นการทำลายสุขภาพเป็นอย่างมาก และยังทำลายสุขภาพช่องปากของคุณด้วย เพราะจะส่งผลต่อเหงือกและฟัน ทำให้เหงือกร่นและฟันเปลี่ยนสี ซึ่งจะทำให้เสียบุคลิกภาพด้วย การสูบบุหรี่ ถือเป็นการทำลายสุขภาพโดยตรง และยังส่งผลต่อการรักษาช่องปากอีกด้วย อย่างเช่น การฝังรากฟันเทียม คนที่สูบบุหรี่ก็เป็นข้อจำกัดอย่างหนึ่งในการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม รวมไปถึงการจัดฟันอีกด้วย

การจัดฟันแบบ fastbraces ถือเป็นการจัดฟันแบบเร่งด่วน โดยใช้นวัตกรรมของเครื่องมือการจัดฟัน ที่จะใช้แรงที่เบามาก ช่วยให้ฟันเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆตลอดเวลา สำหรับคนที่สูบบุหรี่ ที่ต้องการจะเข้ารับการจัดฟันแบบเร่งด่วน ให้งดการสูบบุหรี่เสียก่อน ก่อนที่เข้ารับการรักษาและในช่วงเวลาของการจัดฟัน เพราะการสูบบุหรี่อาจจะส่งผลต่อรากฟันและฟัน ขณะทำการจัดฟันอยู่ อาจจะทำให้ผลการรักษาคลาดเคลื่อนได้

ทั้งนี้ หากต้องการเข้ารับการจัดฟันแบบ fastbraces ควรเข้ารับคำปรึกษาจากทันตแพทย์อย่างละเอียด โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติสูบบุหรี่ ควรเข้ารับคำแนะนำจากทันตแพทย์ เพื่อที่จะได้วางแผนการรักษา เพื่อให้ผลการรักษาเกิดอัตราความสำเร็จมากขึ้น โดยทางคลีนิคเรามีทีมทันตแพทย์ที่เชี่ยวชาญในเรื่องของการจัดฟัน และเรื่องของรากฟัน มีประสบการณ์การรักษามาอย่างยาวนาน จึงทำให้คุณมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในการเข้ารับการบริการ



ค่าใช้จ่าย ! ในการจัดฟันแบบ “fastbraces”

การจัดฟันแบบ จัดฟัน fastbraces ถือเป็นการจัดฟันแบบเร่งด่วน ใช้ระยะเวลาในการจัดฟันเพียงแค่ 3 เดือน – 1 ปี เท่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพช่องปากและฟันของผู้เข้ารับการรักษา โดยการจัดฟันแบบเร่งด่วนนี้ ได้รับความนิยมกันอย่างมาก เพราะมีข้อดีที่ประหยัดเวลา และได้ผลเร็ว รวมไปถึงทำให้มีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติในระยะเวลาที่สั้น และมีความเจ็บน้อยกว่าการจัดฟันแบบทั่วไป เพราะการจัดฟันแบบ fastbraces ไม่จำเป็นต้องถอนฟัน

ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันแบบ fastbraces ถือว่ามีราคาที่ไม่แพงมาก โดยอยู่ที่ประมาณ 60,000 – 90,000 บาท ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของการรักษา ซึ่งการจัดฟันแบบเร่งด่วนนี้ใช้นวัตกรรมเครื่องมือการจัดฟัน ที่สามารถกระตุ้นการปลูกกระดูกด้วย ใช้แรงที่เบามาก จนผู้ที่เข้ารับการจัดฟันไม่รู้สึก ซึ่งเครื่องมือเป็นรูปสามเหลี่ยม ที่ช่วยลดแรงเสียดทาน เคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันไม่รู้สึกเจ็บปวก

ทางคลีนิค เรามีบริการการจัดฟันแบบ fastbraces โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของการจัดฟัน ผ่านการอบรมมาเฉพาะด้าน มีประสบการณ์เกี่ยวกันการจัดฟันแบบ fastbraces มาอย่างยาวนาน หากสนใจสามารถเข้ารับคำแนะนำจากทันตแพทย์ได้ และสามารถสอบถามเรื่องของค่าใช้จ่ายในการรักษาได้ด้วย เพื่อให้ผู้เข้ารับการรักษา ไม่ต้องกังวลเรื่องของค่าใช้จ่ายในการจัดฟันแบบ fastbraces รับรองได้ว่าคุณจะต้องประทับใจเป็นอย่างมาก



ควรระวัง ! การจัดฟันแบบ fastbraces ในผู้ที่สูบบุหรี่ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

36
แอปเปิล APPLE iPhone Xs (4GB/512GB)
ดีไซน์พรีเมี่ยม ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ Apple A12 Bionic หน้าจอ OLED ขนาด 5.8 นิ้ว

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น           แอปเปิล APPLE iPhone Xs (4GB/512GB)
   ราคากลาง        53,900 บาท
   จำนวนซิม         2 ซิม
   แบบดีไซน์       จอสัมผัส
   สี                 ดำ, ขาว, ทอง

   ความถี่-เครือข่าย
2G(GSM 850 / 900 / 1800 / 1900)
3G(HSDPA 850 / 900 / 1700(AWS) / 1900 / 2100)
4G(LTE band 1(2100), 2(1900), 3(1800), 4(1700/2100), 5(850), 7(2600), 8(900), 12(700), 13(700), 14(700), 17(700), 18(800), 19(800), 20(800), 25(1900), 26(850), 29(700), 30(2300), 32(1500), 34(2000), 38(2600), 39(1900), 40(2300), 41(2500), 46, 66(1700/2100),)

   ขนาด-น้ำหนัก                    ยาว 143.6 x กว้าง 70.9 x หนา 7.7 มม., น้ำหนัก 177 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)   512 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด       -
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ        N/A

จอแสดงผล
   ชนิดจอ              จอสัมผัส (OLED Super Retina)
   ความละเอียด       5.8 นิ้ว, 458 ppi, 0 x 0 px
   รายละเอียดอื่น     กล้องหลังคู่ความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล (F1.8/F2.4)

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                   กล้องหลัง (12 Mpx), กล้องหน้า (7 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                                    -

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)             CPU Apple A12 Bionic
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)
   หน่วยความจำ (RAM)               4.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก               Bluetooth, NFC, Wi-Fi
   ระบบรับส่งข้อความ                   SMS, MMS, EMAIL, PUSH MAIL
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต             3G, GPRS, EDGE, WiFi, 4G
   ระบบ GPS                            ไม่มี

มือถือ Iphone แอปเปิล APPLE iPhone Xs (4GB/512GB) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/mobilephone/apple/

37
ความง่วงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับทุก ๆ คนตามธรรมชาติ แต่หากความง่วงได้รบกวนและก่อให้เกิดปัญหาในชีวิตประจำวัน การทำงาน หรือการเข้าสังคม โดยอาจมีสาเหตุมาจากความผิดปกติในการนอนหลับ โรคประจำตัว หรือนอนหลับไม่เพียงพอ ซึ่งคนทั่วไปก็จะแก้ปัญหาด้วยการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ หรือเครื่องดื่มชูกำลัง แต่ในความเป็นจริงแล้วการบริโภคเครื่องดื่มคาเฟอีนเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ และอาจนำมาสู่วงจรที่ส่งผลเสียต่อการนอนหลับได้ในะระยะยาว ดังนั้น การแก้ปัญหาการนอนหลับแบบเป็นธรรมชาติอาจจะช่วยแก้ง่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้ที่ประสบปัญหาต่อไปนี้ อาจบ่งบอกได้ว่าความง่วงกำลังเป็นปัญหาในการใช้ชีวิต

    ง่วงนอนในระหว่างวันจนส่งผลต่อการทำงานและการเข้าสังคม
    รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันและลดประสิทธิภาพในการทำงานต่าง ๆ
    ขาดสมาธิหรือจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ลำบาก
    หลับในระหว่างกำลังขับขี่ยานพาหนะ
    มีปัญหาในการควบคุมอารมณ์
    ไม่สามารถตื่นตัวพอที่จะทำกิจกรรมอยู่กับที่ เช่น ดูโทรทัศน์ หรืออ่านหนังสือ
    ต้องงีบหลับเป็นประจำ และถึงแม้จะงีบหลับแล้วก็ไม่ช่วยให้หายง่วงนอน
    มีปัญหาในการตื่นนอนตอนเช้า
    เบื่ออาหาร
    มีปัญหาในการคิดหรือความจำ
    หงุดหงิดหรือวิตกกังวล

ความง่วงที่มากกว่าปกติและสร้างปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวันเกิดจากอะไรได้บ้าง ?

ปัจจัยที่ทำให้เกิดความง่วงในระหว่างวันมีหลายสาเหตุด้วยกัน ได้แก่

1.    ธรรมชาติร่างกายของคนเราที่จะเกิดความง่วงนอนในแต่ละวัน มีอยู่ด้วยกัน 2 ช่วงเวลา คือ ช่วงระหว่างเที่ยงคืน ถึง 7 โมงเช้า และบ่ายโมง ถึง 4 โมงเย็น โดยผู้ที่จำเป็นต้องตื่นหรือทำกิจกรรมในช่วงเวลาดังกล่าว ก็มีโอกาสสูงที่อาจทำให้นอนหลับไปโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะผู้ที่นอนหลับไม่เพียงพอ

2.    นอนหลับไม่เพียงพอ โดยความต้องการในการนอนหลับของแต่ละคนจะมีไม่เท่ากัน ซึ่งจากการวิจัยได้ระบุว่าผู้ที่มีสุขภาพดีและอยู่ในวัยผู้ใหญ่สามารถนอนหลับได้อย่างไม่จำกัดเวลา และเวลาเฉลี่ยในการนอนหลับต่อคืน คือ 8 ชั่วโมง-8 ชั่วโมงครึ่ง แต่บางคนอาจต้องการนอนน้อยหรือมากกว่านั้นจึงจะไม่ทำให้รู้สึกง่วง

3.    โรคที่เกี่ยวกับการนอนหลับ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โรคลมหลับ กลุ่มอาการขาอยู่ไม่สุข และโรคนอนไม่หลับ เพราะโรคเหล่านี้ทำให้มีปัญหาในการนอนหลับ และทำให้เกิดความง่วงมากได้ในระหว่างวัน

4.    โรคประจำตัวบางชนิดสามารถรบกวนการนอนหลับจนส่งผลให้เกิดความง่วงในระหว่างวันได้ เช่น โรคหืด ภาวะหัวใจล้มเหลว และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เป็นต้น

5.    ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง ยารักษาโรคหัวใจบางชนิด และยารักษาโรคหืด เช่น ยาทีโอฟิลลีน อาจรบกวนการนอนหลับและทำให้เกิดความง่วงในระหว่างวัน

6.    การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สามารถรบกวนการนอนหลับในเวลากลางคืนได้ และทำให้เกิดความง่วงในระหว่างวันได้ในที่สุด นอกจากนั้น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังทำให้ผู้ที่มักง่วงมากอยู่แล้วยิ่งง่วงมากขึ้น และยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุในการขับขี่ยานพาหนะหรือเกิดปัญหาของสมรรถภาพร่างกายได้

7.    การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ และเครื่องดื่มชูกำลัง แต่การบริโภคเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเพื่อแก้ง่วงนั้นอาจนำไปสู่วงจรที่ก่อให้เกิดปัญหาที่เลวร้ายตามมาได้ เพราะคาเฟอีนสามารถทำให้ช่วงเวลาของการนอนหลับลดลง เปลี่ยนแปลงระยะของการนอนหลับที่เป็นปกติ และลดคุณภาพในการนอนหลับลงได้ ถึงแม้ว่าจะดื่มในเวลากลางวันแต่สามารถส่งผลกระทบในช่วงเวลาของการนอนหลับได้ ซึ่งเมื่อดื่มคาเฟอีนเข้าไป มักจะอยู่ในร่างกายประมาณ 3-7 ชั่วโมง

8.    การสูบบุหรี่ ซึ่งมีสารนิโคตินเป็นส่วนประกอบที่ทำให้หลับได้ยากขึ้น และสามารถส่งผลกระทบให้ง่วงในระหว่างวันได้


วิธีแก้ง่วงแบบธรรมชาติ

1.    ควรลุกขึ้นมาเดินบ่อย ๆ ประมาณครั้งละ 10 นาที จะช่วยเพิ่มพลังงานให้ได้ถึง 2 ชั่วโมง เพราะการเดินจะช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเข้าสู่สมอง หลอดเลือดและกล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยให้รู้สึกตื่นตัวและสดชื่นขึ้นได้

2.    งีบหลับแก้ง่วง ควรงีบครั้งละ 5-25 นาที ไม่เกินวันละครั้ง และไม่ควรงีบใกล้กับเวลาเข้านอน หรือประมาณ 6 หรือ 7 ชั่วโมง ก่อนเวลานอน แต่หากไม่สะดวกที่จะงีบหลับ ก็สามารถหลับตาเพื่อพักสายตาประมาณ 10 นาที ก็สามารถคลายง่วงได้

3.    หากต้องทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ซึ่งจะทำให้ปวดตา เกิดความอ่อนล้าและทำให้ง่วงมากยิ่งขึ้น ควรหาเวลาพักสายตาเป็นระยะ ๆ เพื่อให้สายตาได้หยุดพักและเกิดความผ่อนคลาย

4.    รับประทานอาหารว่างที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ขนมปังโฮลวีตทาด้วยเนยถั่ว โยเกิร์ต และถั่วหรือผลไม้สดประมาณ 1 กำมือ

5.    เริ่มต้นบทสนทนาหรือพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานเพื่อกระตุ้นให้ตื่นตัว

6.    ปรับสภาพแวดล้อมหรือเพิ่มไฟให้มีความสว่างมากขึ้น เพราะจากการศึกษาพบว่าในสภาพแวดล้อมที่มีไฟสลัวมักจะทำให้ผู้คนเกิดความง่วงและอ่อนเพลียได้ง่าย

7.    หยุดพักหายใจเพื่อให้รู้สึกตื่นตัว เพราะการหายใจลึก ๆ จะช่วยเพิ่มระดับของออกซิเจนในเลือด ซึ่งจะช่วยชะลอจังหวะการเต้นของหัวใจให้ช้าลง ช่วยลดระดับความดันโลหิต เพิ่มการไหลเวียนโลหิต ช่วยปรับอารมณ์และฟื้นฟูพลังงาน โดยการหายใจจะเป็นการกำหนดลมหายใจไปที่บริเวณท้อง ให้นั่งตัวตรงและปฏิบัติดังนี้ประมาณ 10 ครั้ง
 
8.       เอามือข้างหนึ่งจับไว้ที่หน้าท้อง และอีกข้างไว้ที่หน้าอก หายใจเข้าลึก ๆ ผ่านจมูกและพยายามให้หน้าท้องดันมือออก โดยที่ไม่ให้หน้าอกเคลื่อนไหว

9.        หายใจออกให้ผ่านริมฝีปาก คล้ายกับกำลังผิวปาก โดยสามารถใช้มือค่อย ๆ ดันหน้าท้องเพื่อช่วยดันให้อากาศออกมา

   
วิธีการกระตุ้นการหายใจ ซึ่งมีการใช้ในการเล่นโยคะ โดยวิธีนี้จะช่วยเพิ่มพลังงานและเพิ่มความตื่นตัว มีวิธีการดังนี้
       
1. หายใจเข้าและออกอย่างรวดเร็วผ่านจมูก ในขณะที่ปิดปากเอาไว้อย่างผ่อนคลาย พยายามให้ลมหายใจเข้าออกสั้น ๆ โดยทำประมาณ 3 รอบต่อ 1 วินาที จากนั้นจึงกลับมาหายใจตามปกติ ในครั้งแรกสามารถทำได้นานถึง 15 วินาทีขึ้นไป และเพิ่มทีละ 5 วินาที ทำจนครบ 1 นาที

2.    หลีกเลี่ยงขับขี่ยานพาหนะหากง่วงนอน เพราะการขับในระหว่างที่ง่วงนอนจะมีความอันตรายไม่ต่างกับเมาแล้วขับ ควรให้ผู้อื่นที่ไม่ง่วงช่วยขับแทน หรืออาจจอดรถเพื่องีบหลับก่อน หากต้องขับเป็นเวลานานควรหยุดพักทุก 2 ชั่วโมง โดยออกไปเดินและสูดอากาศให้สดชื่น

3.    ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อป้องกันความเหนื่อยล้าและง่วง เพราะเมื่อร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำจะสามารถทำให้ร่างกายเกิดความอ่อนเพลีย ดังนั้น ควรดื่มน้ำมาก ๆ และรับประทานอาหารที่มีน้ำมาก เช่น ผักและผลไม้

4.    รับแสงอาทิตย์เพื่อปรับวงจรการนอนหลับ เพราะนาฬิกาชีวิตของร่างกายมนุษย์จะมีแสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนด ควรออกไปรับแสงแดดให้ได้อย่างน้อยวันละ 30 นาที ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับได้แนะนำผู้ที่เป็นโรคนอนไม่หลับให้รับแสงแดดเป็นเวลา 1 ชั่วโมงในตอนเช้า นอกจากนั้น เมื่อออกไปรับแสงก็จะได้สูดอากาศบริสุทธิ์และทำให้รู้สึกดีขึ้นได้

5.    ออกกำลังกายเพื่อเพิ่มพลังงานและลดความอ่อนล้า และที่สำคัญยังช่วยให้การนอนหลับมีคุณภาพดีขึ้น ควรออกกำลังกายให้ได้วันละประมาณ 30 นาที แต่หากวันใดเลือกที่จะออกกำลังกายอย่างหนัก ก็อาจทำให้ร่างกายเกิดความอ่อนล้าได้ จึงควรรับประทานอาหารที่อุดมด้วยโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต ภายใน 2 ชั่วโมง หลังจากที่ออกกำลังกายอย่างหนัก นอกจากนั้น ควรออกกำลังกายให้เสร็จก่อนเวลานอนประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพราะจะช่วยให้ไม่รู้สึกตื่นตัวเกินไปในขณะที่กำลังพยายามนอนหลับ


ง่วงขนาดไหนที่ควรพบแพทย์ ?

หากพบว่าตนเองไม่สามารถตื่นตัวพอที่จะทำกิจกรรมใด ๆ ได้ตามปกติ ซึ่งอาจเป็นผลจากโรคของการนอนหลับ เช่น โรคลมหลับหรือภาวะง่วงเกิน ซึ่งเป็นโรคที่สามารถรักษาได้ ควรไปพบแพทย์ โดยแพทย์อาจให้ใช้ยาเพื่อรักษาโรคดังกล่าว

นอกจากนั้น หากพบว่าตนเองมีปัญหาง่วง โดยมีสาเหตุมาจากความเครียด หรือสาเหตุอื่น ๆ การบำบัดโดยการปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรม อาจช่วยปรับปรุงนิสัยการนอนหลับและลดความวิตกกังวลในการนอนหลับได้
 


วิธีแก้ง่วงแบบธรรมชาติ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/

38
สินเชื่อรถเรียกเงิน (แบบโอนเล่ม)-ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP)
ให้วงเงินสูง เน้นผ่อนยาว ดอกเบี้ยเท่ากันทุกงวดตลอดอายุสัญญา
วงเงินอนุมัติสูงสุด 150% ของราคาประเมินรถยนต์
อัตราดอกเบี้ยต่ำ 0.27% ต่อเดือน หรือ 3.19% ต่อปี
อนุมัติง่าย ได้เงินไว
วงเงินสินเชื่อสูงสุด 5 ล้านบาท
เลือกผ่อนได้ยาวๆ สูงสุด 84 เดือน (ระยะเวลาการกู้ยืม 12-84 เดือน)
ผ่อนอยู่หรือผ่อนหมดก็กู้ได้

รายละเอียดสินเชื่อ
   สถาบันทางการเงิน         ธนาคารเกียรตินาคินภัทร
   ชื่อสินเชื่อ                   สินเชื่อรถเรียกเงิน (แบบโอนเล่ม)
   ประเภทสินเชื่อ              สินเชื่อรถแลกเงิน
   วัตถุประสงค์สินเชื่อ         สินเชื่ออเนกประสงค์
   ลักษณะหลักประกัน          สินเชื่อหลักทรัพย์ค้ำประกัน

   รายละเอียดหลักประกัน
รถยนต์ 4 ล้อทุกประเภท ทั้งรถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ ที่ผู้กู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์มาแล้วอย่างน้อย 1 เดือน ในกรณีที่ถือกรรมสิทธิ์มาน้อยกว่า 1 เดือน จะต้องเป็นการโอนมาจากสถาบันการเงิน หรือมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์คนแรกเท่านั้น และไม่ใช่รถโอนลอยในทุกกรณี
รับรถยนต์ที่มีอายุสูงสุดไม่เกิน 14 ปี นับจากปีที่ผลิต

   ผู้มีสิทธิ์กู้                     ผู้มีรายได้ประจำทุกประเภท เจ้าของกิจการ/ธุรกิจส่วนตัว

   คุณสมบัติผู้กู้           
มีสัญชาติไทย อายุ 20 - 65 ปี ณ วันที่ยื่นขอสินเชื่อ
เป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล
มีรายได้ต่อเดือนตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป หรือไม่น้อยกว่า 2 เท่าของค่างวดสินเชื่อ
เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์ หรือเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ที่ยื่นขอสินเชื่อ

   วงเงินกู้               สูงสุดไม่เกิน 5,000,000 บาท
   ระยะเวลากู้           สูงสุดไม่เกิน 84 เดือน
   วิธีการคิดดอกเบี้ย    อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก

   อัตราดอกเบี้ย
ผู้กู้                  จำนวนเงินกู้           ดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมต่อปี
ผู้กู้ทุกประเภท   5,000,000 บาท   6.47 - 15.00 %

   รายละเอียดอัตราดอกเบี้ย
อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ (Flat Rate)
ดอกเบี้ย 3.19% - 8.50% ต่อปี
 
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง
ดอกเบี้ย 6.47%-15.00% ต่อปี
 

*อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.27% ต่อเดือน หรือ 3.19% ต่อปี สำหรับลูกค้าที่ซื้อประกันภัยคุ้มครองสินเชื่อและเลือกระยะเวลาผ่อนไม่เกิน 60 งวด

   หมายเหตุอัตราดอกเบี้ย
อัตราดอกเบี้ยที่ลูกค้าได้รับขึ้นอยู่กับแคมเปญส่งเสริมการขายพิเศษ ไม่รวมรายการส่งเสริมการขายพิเศษตามช่วงเวลา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาผ่อนชำระ อัตราส่วนวงเงินกู้ยืม อายุรถ

   ดอกเบี้ยผิดนัด                 
ไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี
ค่าธรรมเนียม

   ค่าธรรมเนียมจัดการเงินกู้
   ค่าธรรมเนียมเบิกถอน           โปรดสอบถามผู้ให้บริการสินเชื่อ
   ค่าการทวงหนี้                    โปรดสอบถามผู้ให้บริการสินเชื่อ
   ค่าอากรแสตมป์                  ร้อยละ 0.05 ของวงเงินกู้ (สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท)
   ค่าธรรมเนียมอื่นๆที่สำคัญ       การชำระคืน
   ยอดชำระขั้นต่ำ                   โปรดสอบถามผู้ให้บริการสินเชื่อ
   สิทธิชำระเกินค่างวด             โปรดสอบถามผู้ให้บริการสินเชื่อ
   สิทธิชำระคืนก่อนกำหนด         มี (ลดดอกเบี้ยคงเหลือ 50% กรณีปิดบัญชีก่อนกำหนด)


รถแลกเงิน: สินเชื่อรถเรียกเงิน (แบบโอนเล่ม)-ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/money/article/111512

39
งานเลี้ยงค็อกเทล ถือเป็นอีกหนึ่งการจัดเลี้ยงที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ด้วยรูปแบบงานที่มีความทันสมัย มีความสะดวก และเป็นการจัดเลี้ยงที่วัยรุ่นจะชอบมาก เพราะไม่ใช่การจัดเลี้ยงแบบเป็นทางการและไม่มีการจัดโต๊ะให้นั่งรับประทานทาน ถือเป็นการเปิดโอกาสให้แขกในงานพบปะพูดคุยกันในระหว่างเดินเลือกหยิบตักอาหาร อย่างเป็นกันเอง ซึ่งการจัดเลี้ยงแบบค็อกเทล เหมาะสำหรับงานเลี้ยงบริษัท ปาร์ตี้วันเกิด หรือแม้กระทั่งการจัดเลี้ยงในงานแต่งงาน แบบเรียบง่าย ถือว่าน่าสนใจมากเลยทีเดียว สำหรับการจัดเลี้ยงแบบค็อกเทล ด้วยการจัดงานที่ประหยัด มีอาหารให้เลือกรับประทานมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารแบบพอดีคำ รับประทานง่าย หยิบตักสะดวก และยังมีจุดเด่นของการจัดเลี้ยงแบบค็อกเทลคือเน้นเครื่องดื่ม


ซึ่งจะมีพนักงานเสิร์ฟคอยเดินเสิร์ฟเครื่องดื่มอยู่เรื่อยๆ พร้อมอำนวยความสะดวกให้แก่แขกในงาน ให้แขกได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศภายในงานและดนตรีที่แสนสนุกสนาน ทำให้ไม่รู้สึกน่าเบื่อ และยังไม่ทำให้เสียเวลาในการรับประทานอาหารอีกด้วย และวันนี้ทางเราจะมาพูดถึงเรื่องของอาหาร ซึ่งหากเราพูดถึงอาหารในงานเลี้ยงค็อกเทลแล้ว ส่วนใหญ่จะนึกถึงอาหารประเภท กุ้งแช่น้ำปลา ข้อไก่ทอดน้ำปลา ไก่ป๊อป เฟรนด์ฟราย ซึ่งต้องบอกเลยว่า อาหารที่กล่าวมานั้น เราจะมักพบได้บ่อยในงานเลี้ยงค็อกเทล เพราะเป็นอาหารที่หยิบตักง่าย รับประทานง่าย สามารถยืนรับประทานได้ แต่วันนี้เราจะมาแนะนำเมนูสุดแนว ที่ต้องบอกว่า เป็นอาหารที่มีรูปร่างหน้าตาที่น่ารับประทานสุดๆ นั่นก็คือ สลัดแซลมอนสด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมนูยอดฮิตในงานปาร์ตี้แบบค็อกเทลนั่นเอง

สำหรับวิธีการทำก็ง่ายสุดๆ และยังมีวัตถุดิบที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป อันได้แก่ แซลมอน สาหร่ายญี่ปุ่น ไข่กุ้ง ผักกาดแก้วแครอท กะหล่ำปลี น้ำสลัดบัลซามิก เห็นมั้ยว่า วัตถุดิบต่างๆที่เรานำมาใช้นั้น สามารถหาซื้อได้ง่ายและมีวิธีการตระเตรียมที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ต่อไปมาดูวิธีการทำกัน โดยขั้นตอนแรกเราจะต้องล้างทำความสะอาดผักให้สะอาดเสียก่อน จากนั้นเด็ดผักกาดหอมออกเป็นใบๆ ถ้าใบใหญ่มากให้ฉีกครึ่ง ส่วนแครอทให้ขูดเป็นฝอยๆ กะหล่ำปลีให้ใช้มีดซอยเป็นเส้นๆ ใส่ชามสลัดรอไว้ จากนั้นเราจะเทน้ำสลัดบัลซามิก ประมาณ 3 – 4 ช้อนโต๊ะลงไปในชามสลัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน


จากนั้นเอาปลาแซลมอนมาแล่เป็นชิ้นๆ ให้พอดีคำ จากนั้นเอาปลาแซลมอนเรียงด้านบนของผักสลัด จากนั้นตักไข่กุ้งโปะด้านบน ตามด้วยสาหร่ายญี่ปุ่น หลังจากนั้นเมื่อจะรับประทาน ก็ราดด้วยน้ำสลัดอีกเล็กน้อยให้ทั่วๆ แซลมอน เป็นอันเสร็จ นำมารับประทานได้ แต่ถ้าเมนูสลัดแซลมอนสดในงานเลี้ยงแบบค็อกเทลแล้ว เราอาจจะใช้วิธีการจัดตกแต่งใส่แก้วใบเล็กๆ ทำให้พอดีคำ ซึ่งก็จะสามารถหยิบตัดรับประทานได้ง่ายและสวยงามเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น ต้องบอกเลยว่า เมนูนี้นอกจากจะเป็นเมนูแสนอร่อยและพรีเมี่ยมสุดๆสำหรับงานปาร์ตี้แล้ว ยังเป็นเมนูอาหารเพื่อสุขภาพอีกด้วย เพราะเป็นเมนูที่เต็มไปด้วยผักและเนื้อปลาที่ให้โปรตีนสูงแก่ร่างกาย

เพราะในเมนูสลัดปลาแซลมอนสดนี้ เต็มไปด้วยผักที่ให้วิตามินแก่ร่างกาย และยังให้โปรตีนที่มาจากเนื้อปลาอีกด้วย โดยในปัจจุบันการรับประทานเนื้อปลาแซลมอนเป็นเรื่องง่ายและนิยมรับประทานกันอย่างแพร่หลาย เพราะหาซื้อรับประทานได้ง่าย นอกจากความอร่อยของปลาแซลมอนที่มีความหนึบหนับและหวานแบบธรรมชาติแล้ว คุณประโยชน์ของปลาแซลมอนก็มีมากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะช่วยในเรื่องของรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม ช่วยรักษาบำรุงสายตา และป้องกันโรคประสาทจอตาเสื่อม เพราะการรับประทานเนื้อปลาแซลมอนอย่างน้อย 2 ครั้งต่ออาทิตย์จะช่วยชะลอความเสี่ยงของจอประสาทตาเสื่อมที่อาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นได้นั่นเอง


นอกจากนี้ ในเนื้อปลาแซลมอนยังอุดมไปด้วยวิตามิน D ที่ดีต่อร่างกาย เพราะเป็นวิตามินที่ร่างกายต้องการ แต่ถ้าหากได้รับวิตามินประเภทนี้น้อยไปจะก่อให้เกิดความเสี่ยงการป่วยเป็นโรคมะเร็ง โรคเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวานด้วย ดังนั้น ทางเราอยากให้ทุกคนเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อย่างปลาแซลมอน ซึ่งต้องบอกเลยว่า หากมีเวลาว่างจะต้องลองทำเมนูสุดพรีเมี่ยมนี้รับประทานแล้ว นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังให้สารอาหารที่ดีต่อร่างกายอีกด้วย


สลัดแซลมอนสด เมนูอร่อยในงานเลี้ยงค็อกเทล งานจัดเลี้ยงนอกสถานที่ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://thetastefood.com/

40
ทำไมถึงต้องเป็นเช่นนั้นก็เป็นเพราะว่า รถรับจ้างขนของ หากเราต้องการที่จะให้ลูกค้าได้รับ ผลตอบแทนจากการเรียกใช้บริการ รับจ้างขนของ กับเรา ไม่ว่างานไหนๆคุณจะ ขนย้ายบ้าน ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ขนย้ายเครื่องจักร หรือจะขนย้ายสินค้าทางการเกษตรและอื่นๆอีกมากมาย ความคาดหวังของลูกค้าต่อรถรับจ้างทุกคันนั้นก็คือ ความปลอดภัยและความสะอาดนั่นเอง ดังนั้นผู้ให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น รถกระบะรับจ้าง รถ6ล้อรับจ้างขนย้ายบ้าน รถสิบล้อรับจ้าง รถเฮี๊ยบรับจ้าง รถเทรลเลอร์รับจ้าง และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่ง รถทุกคัน รถขนของ ทุกประเภท จะต้องมีความสะอาด ในส่วนของพื้นที่บรรจุสินค้าให้แก่ลูกค้าทุกคน ทุกราย ที่เข้ามาใช้บริการกับคุณ ดังนั้นแล้วในสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นจึงเป็นเหตุที่จะทำให้ผู้ให้บริการ ทีมงานขนส่ง จึงมีการปรับปรุงและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ให้ตรงตามวัตถุประสงค์และความสำเร็จในการขนย้ายของในแต่ละครั้ง ดังนั้น เราจึงขออธิบายรายละเอียดสั้นๆ เพื่อเป็นแนวทางและความรู้ให้แก่ผู้ใช้บริการ รถรับจ้างขนของในแต่ละประเภท ที่เราต้องตรวจเช็ค ความสะอาด ดังนี้



1.เช็คกระบะที่ใช้ในการบรรทุกสินค้าและย้ายของ ในรถรับจ้างขนของของทีมงานขนส่งของเรานั้น เนื่องจากว่ามี รถรับจ้าง ขนย้ายอยู่หลายประเภท ดังนั้นการจัดการจึงแบ่งลักษณะประเภทของรถออกเป็นดังนี้ เช่น

- รถกระบะรับจ้างขนของ เราจะมีทั้งที่เป็นแบบตู้สแตนเลส การตรวจเช็คตู้สแตนเลสหรือตู้ทึบนี้ เราจะเช็คตรงรอยอาร์กของตู้ ว่ามีจุดไหนที่จะทำให้ ชำรุดหรือ รั่วเป็นรูหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมากหากเราทำการขนย้ายในช่วงหน้าฝน เพราะว่าถ้าหากว่าเม็ดฝนสามารถที่จะทะลุผ่านรอยรั่วนี้ได้ มันจะส่งผลให้สินค้าของลูกค้าเปียกได้ และยังตรวจสอบในเรื่องของพื้นกระบะว่ามีสนิม ด้วยหรือไม่

- รถกระบะรับจ้างที่เป็นแบบคอกสูง สิ่งที่เราตรวจสอบนั่นก็คือผ้าใบคลุมสินค้าจะต้องไม่ชำรุด และมีความสะอาด ป้องกันฝุ่นได้ดี พื้นกระบะ จะต้องไม่เป็นสนิม หรือ มีส่วนที่ยื่นออกมา ของมีคม ที่จะส่งผลให้ สินค้าของลูกค้า ชำรุด

- รถ6ล้อรับจ้างขนของ เราก็จะมีทั้งแบบ คอกสูง และกระบะตู้ทึบ การตรวจสอบจะ มีลักษณะเหมือนกันกับรถกระบะรับจ้าง นั่นเอง โดยจะใช้หลักการเดียวกันในการตรวจเช็ครวมไปจนถึงรถสิบล้อรับจ้าง


2.ขั้นตอนในการทำความสะอาดของรถรับจ้างขนย้ายของของเราทุกคันเราจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงคือ

2.1 จะทำความสะอาดหลังจากให้บริการลูกค้าเสร็จ นั่นหมายถึงทางเรา จะทำความสะอาดพื้นกระบะของรถ ที่ให้บริการลูกค้าในแต่ละวันเสร็จในช่วงตอนเย็น จะเป็นการทำความสะอาดเบื้องต้นก่อนที่จะรับงานในเที่ยวต่อไป หากการขนย้ายในเที่ยวต่อไปจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ทางเราจะต้องเตรียมรถขนของให้พร้อมก่อน ตอนเย็นวันนี้นั่นเอง

2.2 ขั้นตอนการทำความสะอาดก่อนเข้ารับบริการ นั่นหมายถึงหลังจากที่เราได้ปฏิบัติในข้อ 2.1 แล้ว ก่อนที่จะถึงหน้างานของลูกค้าในการขนย้ายของ ทางพนักงานขับรถรับจ้างขนของของเรา จะตรวจเช็คความสะอาดพื้น กระบะและอุปกรณ์ที่ช่วยในการ support การขนย้าย เช่น ผ้าใบ หรือ สายรัดของ ทุกชิ้นจะต้องทำความสะอาดก่อนถึงหน้างานของลูกค้า

3. การทำความสะอาดห้องผู้โดยสาร และ ห้องคนขับ หลายๆครั้งที่จะมีลูกค้าที่ใช้ บริการรถรับจ้างขนของ กับเรา จะเดินทางไปพร้อมกับรถขนย้ายของ ดังนั้นรถขนของของเราจะต้องทำความสะอาดในพื้นที่ด้านหน้าเพื่อที่จะให้ลูกค้า ได้รับความสะดวกสบายและ ความสะอาด ในกรณีนั่งไปด้วยกัน เราจึงให้ความใส่ใจทั้งสินค้าและลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการด้วยนั่นเอง


นี่เป็นการเตรียมความพร้อมในเบื้องต้นเกี่ยวกับการทำความสะอาดของ รถรับจ้าง เรา ซึ่ง รถทุกคันที่เราให้บริการนั้นจะต้องมีความสะอาด และปลอดภัยต่อสินค้าของลูกค้า เป็นอันดับแรก ดังนั้นจากประสบการณ์และการทำงานของทีมงานของเรา เราจึงมีความมั่นใจว่าในทุกครั้งที่เราให้บริการรับจ้างขนของแก่ลูกค้า จะสร้างความประทับใจ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ ที่เราให้บริการอยู่บ่อยครั้ง และมีการขนย้ายอยู่เป็นประจำ ซึ่งมีการตอบรับที่ดี โดยในปัจจุบันนี้ เราจะมีงานขนย้าย ที่ลูกค้าที่อยู่ในจังหวัดใหญ่ๆ เรียกเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก อาจจะเป็นเพราะว่า มีความต้องการในการขนย้ายของที่สูง แต่ไม่ได้หมายความถึงว่า จังหวัดอื่นๆเราจะไม่ได้ให้ความสำคัญ ทุกจังหวัดเราให้ความสำคัญแก่ลูกค้าและการบริการที่เป็นมาตรฐานเช่นเดียวกันทั้งหมด ลูกค้าสบายใจได้ ดังนั้นเราจึงขอยกตัวอย่าง ในบางจังหวัดที่ลูกค้า กล่าวชื่นชมในการให้บริการ แก่เรา ซึ่งได้แก่

1. รถรับจ้างขนของจังหวัดกรุงเทพ เป็นการกล่าวชม ตอนเราไปให้บริการรับจ้างขนย้ายหอ ให้แก่ลูกค้าแถวลาดกระบัง
2. รถรับจ้างขนย้ายของจังหวัดเชียงใหม่ ลูกค้าได้ชมงานบริการ ของเรา ซึ่งได้เข้าไปให้บริการในการขนย้ายบ้าน ในเขตตัวเมือง
3. รถรับจ้างขนย้ายของจังหวัดชลบุรี กรณีนี้ ลูกค้าชื่นชมงานบริการ ในการ เข้าไปรับจ้างขนของงานขนย้ายต้นไม้ให้แก่ลูกค้า โดยใช้ รถ 6 ล้อรับจ้าง
4. รถรับจ้างขนของจังหวัดอุดรธานี เป็นงานขนย้ายสินค้าเฟอร์นิเจอร์ มาเมืองทองธานี ลูกค้าประทับใจในความตรงต่อเวลา และ ราคาที่ไม่แพงเลย

ทั้งนี้เราต้องขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ ในงานบริการรับจ้างขนของจากทีมงานขนส่งของเรา เราตั้งใจและมีความปรารถนาที่ดีที่จะให้ บริการรถรับจ้าง ในราคาถูก และคุณภาพเยี่ยม สำหรับท่านใดที่สนใจเรียกใช้บริการสามารถโทรหาเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตามที่อยู่และเบอร์ที่ให้ไว้ข้างล่างนี้ ขอบคุณทุกงานบริการ ขอบคุณลูกค้าทุกท่าน ขอให้ทุกท่านจงมีแต่ความสุขความเจริญ และ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงร่ำรวย ตลอดไปด้วยนะคะขอบคุณค่ะ


รถรับจ้างขนของกรุงเทพ เราจะดูแล รถรับจ้างขนของ อย่างไร ให้สะอาดและปลอดภัย อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.rodrubjang-youservice.com/category/2

41
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep apnea)* หมายถึง การหยุดหายใจ หรือหายใจแผ่วช่วงสั้น ๆ ที่เกิดขึ้นบ่อยระหว่างนอนหลับ ส่งผลให้ร่างกายได้รับออกซิเจนน้อยลง ทำให้เกิดความผิดปกติของอวัยวะต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หัวใจ สมอง และปอด ซึ่งบางครั้งอาจเป็นอันตรายถึงตายได้

ภาวะนี้พบบ่อยในคนอ้วน เพศชาย ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีความดันโลหิตสูง

ในกลุ่มผู้ชายสูงอายุและอ้วน พบภาวะหยุดหายใจขณะหลับประมาณร้อยละ 10 ขณะที่กลุ่มคนทั่วไปที่นอนกรน พบภาวะนี้เพียงร้อยละ 1

*ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่

กลุ่มที่ 1 Central sleep apnea เกิดจากสมองไม่ส่งสัญญาณประสาทไปยังกล้ามเนื้อกะบังลมและหน้าอกที่ใช้ในการหายใจ ทำให้หยุดหายใจเป็นช่วง ๆ พบในผู้ป่วยที่เป็นโรคทางสมอง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง หรือเนื้องอกสมอง เป็นต้น
กลุ่มที่ 2 Obstructive sleep apnea เกิดจากภาวะอุดกั้นของทางเดินหายใจส่วนต้น ซึ่งพบได้มากกว่ากลุ่มที่ 1 มาก ในที่นี้เมื่อกล่าวถึงภาวะหยุดหายใจขณะหลับก็มักจะหมายถึงกลุ่มที่ 2 นี้

สาเหตุ

ส่วนใหญ่เกิดจากภาวะอุดกั้นของทางเดินหายใจส่วนต้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับปัจจัยดังต่อไปนี้

    อายุ คนที่มีอายุมาก เนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อหย่อนยาน ทำให้ช่องทางเดินหายใจบริเวณลำคอแคบลง ลิ้นไก่และลิ้นตกไปอุดกั้นทางเดินหายใจได้ง่าย โรคนี้พบบ่อยในคนอายุ 40-70 ปี
    เพศ พบภาวะนี้ในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เชื่อว่าฮอร์โมนเพศหญิงมีส่วนช่วยทำให้กล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ขยายช่องทางเดินหายใจมีความตึงตัวที่ดีกว่า จึงมีการอุดกั้นทางเดินหายใจน้อยกว่าผู้ชาย แต่หลังวัยหมดประจำเดือนผู้หญิงมีโอกาสเป็นโรคนี้พอ ๆ กับผู้ชาย
    ลักษณะโครงสร้างของกระดูกใบหน้า คนที่มีลักษณะคางสั้น กระดูกใบหน้าแบน จะมีช่องทางเดินหายใจส่วนต้นแคบกว่าปกติ
    ความอ้วน คนที่อ้วนจะมีการสะสมไขมันมากที่ลำคอและทรวงอก ทำให้ช่องทางเดินหายใจส่วนต้นแคบลง และการเคลื่อนไหวของหน้าอกน้อยกว่าปกติ
    การบริโภคแอลกอฮอล์ ยากลุ่มประสาทและยานอนหลับ ทำให้กล้ามเนื้อต่าง ๆ รวมทั้งบริเวณลำคออ่อนแรง เกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจได้ง่าย
    การสูบบุหรี่ ทำให้ระบบทางเดินหายใจมีประสิทธิภาพลดลง
    กรรมพันธุ์ อาจพบว่ามีพ่อแม่พี่น้องเป็นด้วย
    โรคประจำตัว เช่น หืด หวัดภูมิแพ้ ติ่งเนื้อเมือกจมูก ผนังกั้นจมูกคด พาร์กินสัน ความดันโลหิตสูง หัวใจวาย เบาหวาน ภาวะขาดไทรอยด์ กลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่ชนิดหลายถุง เป็นต้น
    ในเด็ก อาจเกิดจากทอนซิลโต ต่อมอะดีนอยด์โต หรือมีความผิดปกติแต่กำเนิด (เช่น ใบหน้าเล็ก ลิ้นใหญ่)

เมื่อมีการอุดกั้นของทางเดินหายใจส่วนต้นเกิดขึ้นขณะนอนหลับ ก็จะทำให้เกิดภาวะหยุดหายใจตามมา ซึ่งอาจแสดงอาการได้ 2 ลักษณะ ได้แก่

1. การหยุดหายใจ (apnea) ไม่มีลมหายใจเข้าออกทางจมูกและปาก เป็นเวลาอย่างน้อย 10 วินาที

2. การหายใจแผ่ว (hypopnea) มีลมหายใจเข้าออกทางจมูกหรือปากลดลงอย่างน้อยร้อยละ 50 เป็นเวลาอย่างน้อย 10 วินาที สังเกตได้จากการกระเพื่อมของหน้าอกและท้องลดลง

ขณะที่หยุดหายใจ ระดับออกซิเจนในเลือดจะต่ำลง ทำให้อวัยวะต่าง ๆ ได้รับออกซิเจนไปเลี้ยงน้อยลง เมื่อลดลงถึงระดับหนึ่ง สมองจะมีกลไกตอบสนองโดยอัตโนมัติ ปลุกให้ตื่นจากหลับ และทำให้กล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้นตึงตัว เปิดช่องทางเดินหายใจให้โล่ง (ผู้ป่วยจะมีอาการสะดุ้ง สำลักน้ำลายตนเอง หรือหายใจเฮือกอย่างดังและแรง) ผู้ป่วยก็จะกลับมาหายใจเป็นปกติ พอหลับไปได้สักพักหนึ่งก็เกิดภาวะหยุดหายใจอีก แล้วสมองก็จะปลุกให้ตื่นอีก เป็นเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ ตลอดทั้งคืน อาการดังกล่าวอาจเกิดขึ้นมากกว่าชั่วโมงละ 10 ครั้ง ทำให้นอนหลับไม่เต็มที่ แต่ผู้ป่วยจะไม่รู้ตัวว่ามีการสะดุดของการนอน และเข้าใจว่าตัวเองนอนหลับได้ดี

อาการ

ที่สำคัญคือ ผู้ป่วยจะมีอาการนอนกรนเสียงดัง สร้างความรำคาญแก่ผู้ที่อยู่ใกล้เคียง ร่วมกับมีการหยุดหายใจหรือหายใจแผ่วเป็นช่วง ๆ (ผู้ที่อยู่ข้าง ๆ จะสังเกตเห็นหน้าอกและท้องไม่กระเพื่อม หรือกระเพื่อมน้อยลง) นานอย่างน้อย 10 วินาที บางครั้งอาจนานถึง 1 นาที

ผู้ป่วยจะรู้สึกนอนหลับไม่สนิท นอนกระสับกระส่าย นอนอ้าปากหายใจให้ได้อากาศ หรือสะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะรู้สึกเหมือนขาดอากาศหายใจ และเวลาตื่นขึ้นมารู้สึกคอแห้งหรือเจ็บคอ 

หลังตื่นนอนตอนเช้ามักมีอาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย รู้สึกนอนไม่เต็มอิ่ม ทั้งที่มีเวลานอนนานเพียงพอ

ผู้ป่วยมักมีอาการง่วงนอนบ่อย นั่งสัปหงก หรือหลับง่ายในช่วงเวลากลางวัน เช่น ขณะทำงาน เรียนหนังสือ นั่งคุยกับผู้อื่น ดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือ หลังอาหารกลางวัน เป็นต้น บางครั้งมีอาการหลับในขณะขับรถ หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรจนได้รับอุบัติเหตุ

ผู้ป่วยมักมีอารมณ์หงุดหงิด หรืออารมณ์เสียง่าย เสียสมาธิ หลงลืมง่าย

ในเด็ก อาจมีอาการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืนหรือปัสสาวะรดที่นอน นอนดิ้นไปดิ้นมา หลับไม่สนิท ผวาตื่นหรือฝันร้าย ร่างกายไม่แข็งแรงร่วมด้วย


ภาวะแทรกซ้อน

ผู้ป่วยมีอาการง่วงนอนง่าย อ่อนเพลีย ไม่สดชื่น หงุดหงิดง่าย เสียสมาธิ ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ และอาจเกิดอุบัติเหตุจากการขับรถหรือการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ในเด็กอาจทำให้เรียนหนังสือได้ไม่ดี หรือมีปัญหาด้านความประพฤติได้

นอกจากนี้ หากปล่อยให้เป็นเรื้อรังนาน ๆ โดยไม่ได้รับการรักษา อาจพบภาวะแทรกซ้อน เช่น

    ความดันโลหิตสูง เนื่องจากมีการหลั่งสารอะดรีนาลินออกมาในร่างกายมากกว่าปกติ พบได้ประมาณร้อยละ 50 ของผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
    เบาหวานชนิดที่ 2 เนื่องจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับเพิ่มโอกาสของการเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน (insulin resistance)
    โรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (อาจเต้นช้าหรือเร็วกว่าปกติ) โรคหัวใจขาดเลือด หัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง ความดันในปอดสูง (pulmonary hypertension ซึ่งเป็นต้นเหตุของภาวะหัวใจซีกขวาล้มเหลว)
    ผู้ที่มีโรคหัวใจขาดเลือดอยู่ก่อน ภาวะหยุดหายใจขณะหลับอาจส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
    ตับมีความผิดปกติ เช่น มีเอนไซม์ตับ (AST, ALT) สูง และภาวะไขมันสะสมในตับ
    ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือองคชาตไม่แข็งตัว (erectile dysfunction/ED)
    ความผิดปกติทางจิตประสาท เช่น ความจำเสื่อม บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลง โรคซึมเศร้า เป็นต้น 
    อาการนอนกรนเสียงดังยังส่งผลต่อปัญหาสังคม คือ อาจเป็นเหตุของการหย่าร้างระหว่างสามีภรรยา
    ในเด็ก อาจทำให้พัฒนาการของร่างกายและสมองแย่ลง ฮอร์โมนเจริญเติบโต (growth hormone) มีปริมาณลดลง ทำให้มีความสูงน้อยกว่าเด็กปกติ ปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน หรือปัสสาวะรดที่นอน นั่งสัปหงกในห้องเรียน ไม่มีสมาธิในการเรียน ผลการเรียนไม่ดี

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย

การตรวจร่างกายขณะตื่นนอนตอนกลางวัน มักไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน ยกเว้นบางคนอาจตรวจพบว่ามีรูปร่างอ้วน ความดันโลหิตสูง

การตรวจร่างกายขณะนอนหลับ จะพบอาการกรนเสียงดัง และมีภาวะหยุดหายใจ หรือหายใจแผ่วเป็นช่วง ๆ

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัด โดยการตรวจความผิดปกติระหว่างการนอนหลับด้วยวิธีที่เรียกว่า "Polysomnography (PSG)" โดยต้องไปนอนค้างที่โรงพยาบาล แล้วใช้อุปกรณ์ตรวจวัดลักษณะการหายใจ และการเปลี่ยนแปลงของหัวใจ ปอด สมอง การเคลื่อนไหวของแขนขา ระดับออกซิเจนในเลือด

นอกจากนี้ ในรายที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน หรือมีอาการที่สงสัยว่ามีภาวะแทรกซ้อน แพทย์จะทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ เอกซเรย์ ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เป็นต้น


การรักษาโดยแพทย์

1. แพทย์จะเริ่มต้นให้การดูแลรักษา ด้วยการให้ผู้ป่วยปรับพฤติกรรมเสี่ยง ได้แก่

    การลดน้ำหนักตัว ควรลดให้ได้มากกว่าร้อยละ 10 อาจมีผลทำให้หายขาดในผู้ป่วยบางรายได้
    หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำให้ร่างกายแข็งแรง มีส่วนช่วยให้อาการทุเลาได้ แม้ว่าจะมีน้ำหนักตัวเกิน
    หลีกเลี่ยงการบริโภคแอลกอฮอล์และยานอนหลับก่อนเข้านอน เพราะจะทำให้ทางเดินหายใจอุดกั้นได้ง่าย และหยุดหายใจนานขึ้น 
    พยายามนอนในท่าตะแคง หรือท่าที่ทำให้อาการลดลง (สมัยก่อนมีการใช้ถุงใส่ลูกเทนนิส 3-4 ลูกติดไว้ด้านหลังของเสื้อนอน เพื่อบังคับให้ผู้ป่วยนอนตะแคง)
    งดสูบบุหรี่

2. ถ้าไม่ได้ผล หรือมีอาการรุนแรง ก็จะให้การรักษาเพิ่มเติม ซึ่งมีให้เลือกอยู่หลายวิธี ดังนี้

    การใช้อุปกรณ์ทางทันตกรรม ช่วยเพิ่มขนาดของทางเดินหายใจในช่วงนอนหลับ วิธีนี้ใช้ได้ผลในรายที่เป็นไม่รุนแรง
    การใช้เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก (continuous positive airway pressure/CPAP) เพื่อช่วยหายใจขณะนอนหลับ มีลักษณะเป็นหน้ากากใช้สวมจมูกเวลานอน สามารถใช้รักษาผู้ป่วยที่เป็นรุนแรง และได้ผลในการแก้ภาวะนี้ได้มากกว่าร้อยละ 90
    การผ่าตัดขยายทางเดินหายใจให้กว้างขึ้น ซึ่งมีอยู่หลายวิธี แพทย์จะเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพปัญหาของผู้ป่วยแต่ละราย ส่วนเด็กที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับเนื่องจากทอนซิลโตหรือต่อมอะดีนอยด์ (adenoid) โต ก็รักษาด้วยการผ่าตัดทอนซิลหรือต่อมอะดีนอยด์

3. หากพบมีภาวะแทรกซ้อนร่วมด้วย เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ เป็นต้น แพทย์ก็จะทำการรักษาโรคเหล่านี้ควบคู่กันไป

ผลการรักษา ส่วนใหญ่สามารถรักษาให้อาการหายเป็นปกติได้ด้วยการปรับพฤติกรรม และ/หรือใช้เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก (CPAP) ส่วนน้อยที่ต้องรักษาด้วยการผ่าตัด

การดูแลตนเอง

หากมีอาการนอนกรน ร่วมกับมีความรู้สึกนอนไม่เต็มอิ่ม มีอาการปวดศีรษะหรืออ่อนเพลียหลังตื่นนอน หรือมีอาการง่วงนอนหรือนั่งสัปหงกง่ายในเวลากลางวัน ควรปรึกษาแพทย์ 

เมื่อตรวจพบว่าเป็นภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ควรปฏิบัติ ดังนี้

    ดูแลรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    ปรับพฤติกรรมที่มีส่วนช่วยในการรักษาโรคอย่างจริงจัง ได้แก่ ลดน้ำหนักตัว ออกกำลังกายเป็นประจำ หลีกเลี่ยงการบริโภคแอลกอฮอล์และยานอนหลับก่อนเข้านอน งดสูบบุหรี่ พยายามนอนในท่าตะแคง
    สงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น


การป้องกัน

สำหรับกลุ่มที่มีสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับโรคประจำตัวและพฤติกรรม อาจป้องกันหรือทำให้โรคทุเลาได้ด้วยการปฏิบัติตัว ที่สำคัญคือ การออกกำลังกาย การลดน้ำหนัก การไม่บริโภคสุราและยาสูบ และการควบคุมโรค (เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หวัดภูมิแพ้ หืด ภาวะขาดไทรอยด์ เป็นต้น)

ข้อแนะนำ

1. อาการนอนกรน (snoring) มีอยู่ 2 ชนิด ได้แก่ ชนิดไม่อันตราย (ซึ่งไม่ทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ เพียงแต่สร้างความรำคาญแก่ผู้ที่อยู่ใกล้เคียง) และชนิดอันตราย (ซึ่งมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับร่วมด้วย และส่งผลเสียต่อสุขภาพมากมาย) ดังนั้น ถ้ามีอาการนอนกรน ควรสังเกตว่ามีภาวะหยุดหายใจ หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ (เช่น ง่วงนอนหรือหลับง่ายในเวลากลางวัน อารมณ์หงุดหงิด เสียสมาธิ หลงลืมง่าย ความดันโลหิตสูง เป็นต้น) ร่วมด้วยหรือไม่ หากสงสัยว่ามีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการวินิจฉัยและให้การรักษาแต่เนิ่น ๆ

2. การรักษาโรคนี้ด้วยการใช้เครื่องอัดอากาศ (CPAP) เพื่อช่วยหายใจขณะนอนหลับ จะช่วยให้อาการดีขึ้น แต่ต้องใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกคืน เมื่อหยุดใช้อาการมักกลับมากำเริบได้อีก

3. การรักษาภาวะนี้ให้ได้ผลอย่างจริงจัง จะช่วยลดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะความดันโลหิตสูงที่พบร่วมด้วยก็จะหายได้ ในช่วงที่ยังมีความดันโลหิตสูง อาจจำเป็นต้องให้ยาลดความดัน




doctor at home: ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep apnea)  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com

42
เมื่อซื้อบ้านใหม่หรือปลูกบ้านจนแล้วเสร็จ เจ้าของบ้านก็ต้องทำการตรวจรับบ้านอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุมก่อนรับมอบบ้าน แต่ยังมีอยู่จุดหนึ่งที่มักจะถูกละเลยการตรวจสอบอยู่บ่อย ๆ นั่นก็คืองานท่อประปา เพราะเป็นงานที่เจ้าของบ้านอาจมองไม่เห็นเมื่อตรวจรับบ้านที่พร้อมอยู่อาศัยแล้ว ดังนั้นถ้าเจ้าของบ้านไม่เริ่มตรวจงานเดินท่อตั้งตอนก่อสร้าง ก็ต้องหาวิธีสอดส่องดูระบบน้ำทั้งในและนอกบ้านด้วยวิธีเหล่านี้ให้ดี จะได้ไม่ต้องกุมขมับกับปัญหาท่อประปารั่วซึมในภายหลัง

1.รู้จักกับท่อประปายอดนิยม
ท่อพีวีซี (PVC) คือ ท่อชนิดหนึ่งที่ผลิตจากวัสดุที่เรียกว่าโพลิไวนิลคลอไรด์ (Polyvinylchloride) ที่มีความทนทานและราคาถูก แต่ท่อพีวีซีก็มีหลายสีให้เลือก โดยแต่ละสีก็มีคุณสมบัติการใช้งานที่แตกต่างกันดังนี้

ท่อพีวีซีสีฟ้า
เป็นท่อที่เหมาะกับระบบส่งน้ำประปาและน้ำดื่ม ซึ่งท่อชนิดนี้มีขนาดที่หลากหลาย และมีความหนาเพียงพอต่อการรองรับแรงดันน้ำ หากจะเดินท่อประปา PVC ในบ้าน ก็ควรเลือกใช้ท่อพีวีซีสีฟ้าเท่านั้น

ท่อพีวีซีสีเทา
เป็นท่อที่เหมาะกับระบบส่งน้ำทางการเกษตร ซึ่งท่อชนิดนี้มีราคาถูกที่สุด แต่ไม่ยืดหยุ่นและแตกหักง่าย ซึ่งท่อพีวีซีสีเทาในบ้านมักถูกใช้เป็นท่อน้ำทิ้ง แต่ถ้านำมาใช้เป็นท่อน้ำประปาจะไม่เหมาะสม

ท่อพีวีซีสีเหลือง
เป็นท่อที่เหมาะกับระบบสายไฟในอาคาร เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันไฟฟ้า ทนความร้อน และติดไฟยาก แต่ท่อชนิดนี้จะมีขนาดให้เลือกไม่มากนัก เพราะเน้นทำท่อเพื่อร้อยสายไฟเท่านั้น

ท่อพีวีซีสีขาว
เป็นท่อที่เหมาะกับระบบสายไฟนอกอาคาร มีคุณสมบัติต่าง ๆ เหมือนท่อพีวีซีสีเหลือง แต่ทนทานต่อรังสียูวี (UV) ได้ดีกว่า และมีความยืดหยุ่นสูงจนสามารถดัดงอได้โดยไม่ต้องใช้ข้อต่อ


2.การตรวจท่อประปาขณะก่อสร้าง
หากเป็นไปได้ การตรวจงานท่อประปาควรเริ่มทำตั้งแต่บ้านยังไม่ตีฝ้าหรือปิดปูนทับท่อ เจ้าของบ้านจึงจะเห็นคุณภาพของระบบท่อประปาได้อย่างชัดเจน ซึ่งวิธีนี้เหมาะกับเจ้าของบ้านที่ปลูกเองโดยผู้รับเหมาหรือบ้านที่ซื้อไว้ตั้งแต่ยังสร้างไม่เสร็จ โดยมีวิธีการตรวจสอบดังนี้

เลือกใช้ท่อมาตรฐาน
เจ้าของบ้านควรตรวจสอบวัสดุที่ใช้เดินท่อประปาว่า มีการใช้ท่อถูกต้องตามประเภทของระบบน้ำ หากมีระบบน้ำร้อนน้ำเย็นต้องใช้ท่อพีพีอาร์ (PPR) แทนท่อพีวีซีด้วย และท่อประปาที่ใช้ควรได้รับเครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรมหรือ มอก.

ต่อท่ออย่างถูกต้อง
เนื่องจากท่อพีวีซีสีฟ้านั้นมีความยืดหยุ่นน้อย การเดินท่อตามมุมต่าง ๆ จึงต้องมีการตัดท่อและใช้ข้อต่อเสมอ ดังนั้นทุกข้อต่อจึงต้องแน่นพอดีขนาดท่อ ตัดขอบที่เนียนเรียบไม่เป็นขุย และต้องทาน้ำยาประสานให้ท่อและข้อต่อติดกันอย่างดี

วางท่อเป็นระเบียบ
ท่อประปาในบ้านเรียงกันอย่างเป็นระเบียบบนเพดาน ใช้แนววางท่อที่สั้นที่สุดเพื่อลดการสูญเสียแรงดันน้ำ และมีการเอียงท่อน้ำทิ้งและสิ่งปฏิกูลให้ลาดลงเพื่อลดโอกาสของเสียถูกขังอยู่ในท่อ

เช็กรอยรั่วก่อนปิดทับ
เจ้าของบ้านต้องกำชับผู้รับเหมาให้ปล่อยน้ำเข้าสู่ระบบทั้งบ้านเพื่อทดสอบรอยรั่วซึมก่อนทาปูนปิดทับหรือตีฝ้า ซึ่งจะทำให้ค้นพบรอยรั่วซึมและแก้ปัญหาได้ง่ายกว่าตรวจสอบหลังปิดทับท่อไปแล้ว


3.การตรวจท่อประปาหลังก่อสร้าง
เนื่องจากโครงการบ้านต่าง ๆ มักจะขายบ้านพร้อมอยู่ที่เจ้าของบ้านไม่มีโอกาสได้เห็นระบบท่อประปาที่ซ่อนอยู่ภายในโครงสร้าง เจ้าของบ้านจึงต้องบรรจุการตรวจงานท่อประปาไว้ในรายการตรวจรับบ้านด้วย โดยมีวิธีการตรวจสอบดังนี้

ตรวจดูแปลนและเช็กรายการวัสดุ
การขอดูแบบแปลนบ้านถือเป็นขั้นตอนแรกที่จะทำให้ทราบว่ามีการเดินท่อประปาในบ้านอย่างไร และเดินท่อบริเวณไหนบ้าง โดยแบบแปลนส่วนใหญ่ก็มักจะมาพร้อมกับรายการวัสดุที่จะทำให้ทราบว่าใช้ท่อน้ำที่ได้มาตรฐานหรือไม่

เปิดน้ำแล้วลองใช้งานทั้งบ้าน
เมื่อเข้าตรวจรับบ้าน ขอให้ตรวจระบบน้ำประปาด้วยการเปิดน้ำพร้อมกันทุกก๊อกเพื่อทดสอบว่าน้ำไหลปกติและมีแรงดันเพียงพอ แล้วทดสอบกดชักโครกดูว่ากดได้ปกติดีหรือไม่ และสังเกตตามจุดเชื่อมต่อกับท่อน้ำด้วยว่ามีน้ำรั่วซึมหรือไม่

ปิดน้ำแล้วตรวจดูมาตรวัดน้ำ
หลังจากเปิดก๊อกน้ำเพื่อเช็กความปกติแล้ว ก็ได้เวลาสำหรับการปิดก๊อกน้ำทุกตัวให้สนิท แล้วไปสังเกตที่มาตรวัดน้ำดูว่ามาตรวัดยังหมุนอยู่หรือไม่ ถ้ายังหมุนอยู่ ก็หมายความว่าท่อประปาในบ้านกำลังรั่ว ณ จุดใดจุดหนึ่งแล้ว อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเคล็ดลับการหารอยรั่วของท่อประปา

มีการต่อท่อระบายอากาศ
เจ้าของบ้านหลายคนอาจไม่ทราบว่าการเดินระบบท่อประปาควรมีท่อระบายอากาศต่อกับระบบระบายน้ำและชักโครกด้วย ซึ่งท่อระบายอากาศจะช่วยป้องกันไม่ให้กลิ่นที่แย่ ๆ ย้อนกลับมาจากท่อน้ำทิ้งหรือในชักโครก

ต่อท่อปั๊มน้ำอย่างแข็งแรง
ปั๊มน้ำเป็นหนึ่งในไม่กี่จุดที่เจ้าของบ้านสามารถเห็นท่อน้ำได้จากภายนอก ซึ่งท่อน้ำต้องมีการต่อกับปั๊มอย่างแข็งแรง ไม่มีรอยรั่วซึม และต้องใช้ท่อที่มีความหนากว่าส่วนอื่น ๆ เพื่อรองรับแรงดันน้ำที่จ่ายให้ทุกก๊อกทั่วทั้งบ้าน

แม้ว่าการงานท่อประปาจะเป็นเรื่องที่ตรวจสอบได้ยาก แต่ถ้าทำตามคำแนะนำเหล่านี้ก็จะช่วยลดโอกาสที่เจ้าของบ้านจะพบกับบ้านท่อประปาแตกโดยไม่รู้ตัว และสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องท่อได้อย่างทันท่วงที แต่นอกจากปัญหาท่อแตกและรั่วซึมที่ต้องระวังแล้ว ยังมีเรื่องที่อาจสร้างปัญหาให้เจ้าของบ้านได้อีกหากไม่ตรวจดูท่อประปาให้ดี



บริหารจัดการอาคาร: วิธีตรวจงานระบบท่อประปาก่อนรับมอบบ้าน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://snss.co.th/dt_post/technical-services/

43
เชื่อว่าหลายๆท่านคงมองเห็นด้านดีขอการจัดฟัน ซึ่งเป็นการรักษาทางทันตกรรม เพื่อให้ฟันของท่านที่มีความผิดปกติกลับมาเรียงตัวเป็นระเบียบสวยงามได้ โดยการใช้อุปกรณ์ทางทันตกรรม

ซึ่งในสมัยนี้ ได้มีนวัตกรรมทางทันตกรรมสุดล้ำสมัยเกิดขึ้นมามากมาย โดยสามารถทำการจัดฟันได้ตั้งแต่เด็กเล็กๆ ที่มีอายุประมาณ 4 ขวบ โดยเครื่องมือทรงประสิทธิภาพนี้ก็คือ EF Line นอกจากจะทำให้ฟันที่ผิดปกติของเด็กเข้าที่เป็นระเบียบสวยงามแล้ว ยังสามารถแก้พฤติกรรมที่ทำร้ายสุขภาพช่องปากได้อีกด้วย

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันทำให้ได้ทราบว่า วงการทันตกรรมไม่หยุดที่จะพัฒนาข้อด้อยต่างๆให้กลายเป็นข้อดีที่หลายๆท่านตามไม่ทัน

แต่ในวันนี้ทางด้าน Clinic จะมาขอพาท่านผู้อ่านมาทำความเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการจัดฟัน ทุกอย่างแม้ว่าจะมีข้อดีมากมาย แต่ข้อด้อยก็ต้องมีคู่กัน ซึ่งท่านจะสามารถเรียนรู้และป้องกันไม่ให้เกิดได้ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

ผลข้างเคียงของการจัดฟัน ?

ต้องขอบอกก่อนเลยว่าการจัดฟันนั้นถือว่าเป็นการรักษาทางทันตกรรมที่มีความปลอดภัยสูงมากๆ แต่ความเสี่ยงบางประการก็อาจจะมีอยู่ ซึ่งท่านสามารถแก้ไขป้องกันได้ หากทราบว่าความเสี่ยงเหล่านั้น คืออะไร เกิดขึ้นจากอะไร โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้


– ความเสี่ยงในระยะสั้น

อุปกรณ์ในการจัดฟันนั้นจะไม่มีทางที่แนบสนิทกับฟันของท่านแน่นอน ในบางส่วนรอบฟันอาจเกิดช่องว่างเล็กๆซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการเฝ้าระวัง เพราะ ช่องเหล่านั้นง่ายต่อการสะสมเศษอาหารที่รับประทานเข้าไป และถือว่าเป็นการเพิ่มคราบแบคทีเรียและจุลินทรีย์มากมาย ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดการทำลายชั้นเคลือบฟันเนื่องจากการสูญเสียแร่ธาตุบนผิวฟันบางชนิด ส่งผลให้เกิดคราบด่างขาวแบบถาวรทิ้งไว้หลังจากที่นำอุปกรณ์ในการจัดฟันออก รวมถึงปัญหาฟันผุ และโรคเหงือกอักเสบร้ายแรงตามมาได้ง่าย


– ความเสี่ยงระยะยาว

การจัดฟันอาจจะส่งผลให้รากฟันลดลง เนื่องจากว่าในขณะที่ฟันถูกใส่อุปกรณ์จัดฟันจะถูกบีบให้เกิดการเคลื่อนไหวตลอดเวลาทีละน้อยจนท่านไม่ทันได้สังเกตเห็น และกระดูกในบริเวณที่ฟันเคลื่อนที่ก็จะหายไปเรื่อยๆ โดยตามธรรมชาติร่างกายจะผลิตกระดูกในส่วนนี้ขึ้นมาใหม่ทดแทน ในกระบวนการนี้เองที่อาจจะทำให้มีความเสี่ยงสูญเสียรากฟันไปอย่างถาวร ส่งผลให้ฟันไม่แข็งแรง แต่ถึงอย่างไรก็ตามทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการตรวจสอบวินิจฉัยในส่วนนี้อย่างละเอียดทุกครั้งอยู่แล้ว จึงทำให้ปัญหาความเสี่ยงนี้เกิดขึ้นได้น้อยมากๆ นอกจากว่าท่านจะไม่ไปพบทันตแพทย์ตามนัดเป็นประจำ ก็อาจจะทำให้ความเสี่ยงตรงนี้เพิ่มมากขึ้นได้นั่นเอง


– ความเสี่ยงด้านพฤติกรรม

เมื่อทำการถอดอุปกรณ์จัดฟันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องทำต่อก็คือการใส่รีเทนเนอร์เพื่อไม่ให้ฟันคืนสภาพไม่เป็นระเบียบอีกครั้ง ซึ่งระยะเวลาในการใส่รีเทนเนอร์นี้จะขึ้นอยู่กับทันตแพทย์วิเคราะห์ แต่โดยส่วนใหญ่และจะใช้เวลาในการใส่รีเทนเนอร์ประมาณ 6 เดือน หรือมากกว่านั้น

ซึ่งหลายๆท่านรู้สึกไม่สบายช่องปากในการใส่รีเทนเนอร์ในครั้งแรกๆ ทำให้เกิดความไม่อยากใส่หรือใส่ไม่สม่ำเสมอ พฤติกรรมนี้พบบ่อยเพราะอาจจะคิดว่าใส่บ้างไม่ใส่บ้างคงไม่เป็นอะไร แต่แท้ที่จริงแล้ว เมื่อถอดอุปกรณ์จัดฟันออกใหม่ๆ ฟันที่เรียงตัวกันสวยงามนั้นยังไม่มีความแข็งแรงและสามารถล้มได้ง่าย ผลสุดท้ายฟันอาจจะกลับสู่สภาพเดิม ทำให้หลายๆท่านต้องกลับมาทำการจัดฟันใหม่อีกครั้ง เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา

 

ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ถือได้ว่าเป็นความเสี่ยงที่หลายๆท่านที่ทำตามทันตแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัดอาจจะไม่เคยประสบปัญหาเหล่านี้ แต่ก็ถือได้ว่ามีจำนวนไม่น้อยที่จัดฟันเสร็จแล้วต้องกลับมารักษาส่วนอื่นๆต่อเพราะผลกระทบที่ไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงในการจัดฟัน แต่เมื่อท่านทราบแล้วและป้องกัน ความเสี่ยงเหล่านี้ก็จะลดลงจนแทบจะไม่เกิดขึ้นกับท่านเลยก็ได้

การจัดฟันทุกครั้ง และทุกคน ควรทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างเคร่งครัด และมาตามนัดหมายทุกครั้ง เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้นั่นเอง



รู้ไว้ป้องกันได้ ความเสี่ยงในการจัดฟัน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

44
ฮอนด้า Honda CBR 650R (Standard) ปี 2023
Honda CBR650R Standard มาพร้อมคอนเซปต์ Race Like a Pro สปอร์ตไบค์ที่ได้รับการถ่ายทอด DNA ความเท่จากรถระดับซูเปอร์สปอร์ตอย่างสมบูรณ์แบบ ปรับโฉมใหม่ทั้งคันให้มีความดุดันยิ่งกว่าเดิม โดดเด่นด้วยไฟหน้าคู่แบบ LED และไฟท้ายใหม่ ลงตัวกับชุดแฟริ่งดีไซน์ใหม่รอบคัน รวมถึงแฟริ่งท้ายแบบใหม่ให้ความสปอร์ตเต็มขั้น ให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสประสบการณ์เสมือนมือโปรทุกครั้งที่ออกตัว โดย All New Honda CBR650R มีให้เลือก 2 สีใหม่ ได้แก่ สีแดง GRAND PRIX RED และ สีดำ MAT GUNPOWDER BLACK METALLIC? ราคาแนะนำเริ่มต้นที่ 327,300 บาท

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์          Honda
   รุ่น               ฮอนด้า Honda CBR 650R (Standard) ปี 2023
   ประเภทรถ      Sport Bigbike, รถสปอร์ตขนาดใหญ่
   ปีที่เปิดตัว       2023
   ราคา            327,300 บาท

สเปค
   รูปแบบเกียร์                 เกียร์ธรรมดา
   ระบบเกียร์                   6 เกียร์
   รายละเอียดเครื่องยนต์     4 สูบ, DOHC
   ระบบระบายความร้อน      น้ำ
   ระบบสตาร์ท                 สตาร์ทไฟฟ้า (มือ)
   ขนาดเครื่องยนต์ (CC)     648.72 CC
   แบบเครื่องยนต์              4 จังหวะ
   ระบบจุดระเบิด               Digital Transistorized
   ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง     เบนซิน 95, แก๊สโซฮอล์ 91, แก๊สโซฮอล์ 95 (E10), เบนซิน 91
   ระบบจ่ายน้ำมัน              หัวฉีด (PGM-Fi)
   ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)      15.4 ลิตร
   ระบบกันสะเทือน             ล้อหน้า 41 mm Upside Down Telescopic Forks, ล้อหลัง Monoshock Damper with Adjustable Preload
   ระบบเบรค                    ล้อหน้า ดิสก์เบรก (Hydraulic double disc), ล้อหลัง ดิสก์เบรก (Hydraulic disc)
   แบบวงล้อ                    แมกซ์
   ขนาดยาง                         ล้อหน้า 120/70 ZR17 M/C 58W, ล้อหลัง 180/55-ZR17 M/C 73W
   ขนาด (ยาวxกว้างxสูง มม.)    2,128 x 749 x 1,146 มม.
   น้ำหนักตัวรถ                       207.80 กก.


bigbike ฮอนด้า Honda CBR 650R (Standard) ปี 2023 อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/motorcycle/bigbike/

45
ระบบภูมิคุ้มกัน หนึ่งในกลไกการทำงานของร่างกายที่มีหน้าที่ดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อต่างๆ ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรค

นอกจากนี้ การมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงและมีประสิทธิภาพ ยังทำให้รู้สึกชีวิตมีพลัง เกิดความกระปรี้กระเปร่า และแลดูอ่อนเยาว์สดใสอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเราสามารถ  เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงได้ด้วย 5 วิธีง่ายๆ ในการชีวิตประจำวัน ดังนี้

 
หายใจให้เต็มปอด

หายใจในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ โดยใช้เวลาขณะท้องว่างสัก 5 นาทีในแต่ละวัน นั่งหรือยืนในท่าที่สบาย หลังตรง หน้ามองตรง วางมือทั้งสองที่หน้าท้องบริเวณกะบังลม

 

ใช้จมูกหายใจเข้า โดยให้ท้องป่องออกจนสุด กลั้นไว้สัก 4 วินาทีแล้วหายใจออกให้ท้องแฟบลง ทำอย่างผ่อนคลายแต่ให้รู้สึกถึงการผ่านของอากาศไปช่องอก การเพิ่มลมหายใจเข้าออกให้ยาวขึ้น ปอดจะได้รับออกซิเจนอย่างเต็มที่
 

หากคุณรู้สึกเครียด ให้ลองหายใจโดยใช้นิ้วอุดรูจมูกข้างหนึ่งไว้ แล้วหายใจเข้ายาวๆ ด้วยจมูกอีกข้างจนสุดลม สลับการอุดรูจมูกแล้วค่อยเริ่มหายใจออก ทำสลับกันแบบนี้ 10 ครั้ง จะรู้สึกถึงความผ่อนคลาย

 
กินอาหารให้สมดุล

การกินอาหารที่มีกรดและด่างมากเกินไปอาจทำให้ร่างกายพัง ขนมปัง เนื้อสัตว์ ไข่ นม เนย น้ำตาล ช็อกโกแลต รวมถึงเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม กาแฟ และเบียร์ จะมีความเป็นกรดสูงทำให้ไตทำงานหนัก เสี่ยงกระดูกพรุนและโรคหลอดเลือด

 

หันมากินผักใบเขียวที่ให้ความเป็นด่าง ดื่มน้ำมากขึ้น กินอาการที่ปรุงแต่งน้อย เลี่ยงอาหารแปรรูป อย่าลืมกินถั่ว ผัก และผลไม้ เพื่อให้ได้รับวิตามินและเกลือแร่ ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย เลือกกินอาหารที่ปล่อยพลังงานช้า เช่น ข้าวไม่ขัดสี ธัญพืช ผลไม้อย่างองุ่น แอปเปิ้ล เพื่อให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สวิงขึ้นลงระหว่างวัน อันจะทำให้หิวบ่อยซึ่งเป็นต้นเหตุของการกินมากไป

 
ออกกำลังกายให้เลือดสูบฉีด

การออกกำลังกายเป็นการเพิ่มการหมุนเวียนของเลือดโดยรวม ทำให้เซลล์ต่างๆ ได้รับออกซิเจนมากขึ้น เม็ดเลือดขาวแข็งแรงและเพิ่มจำนวนได้ เพียงออกกำลังกายเบาๆ ต่อเนื่องสัก 30 นาทีให้หัวใจเต้นอยู่ในโซน 2 ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด (ระหว่าง 60-70% ของ 220 ลบด้วยอายุ) ก็เพียงพอสำหรับการดึงไขมันสะสมมาใช้

 

สังเกตว่าเมื่อจบการออกกำลังกายแล้วจะเกิดความรู้สึกสดชื่นจากการที่ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน การฝึกในระดับนี้จะทำให้เริ่มติดการออกกำลังกายเพราะไม่เหนื่อยเกินไป ใช้เวลาไม่มาก เมื่อแข็งแรงขึ้นจึงเพิ่มความหนักและเวลาให้นานขึ้น

 
ใช้สรีระให้ถูกต้อง

ในแต่ละวันเราจับหรือใช้อุปกรณ์สื่อสารรวมไปถึงจ้องหน้าจอคอมฯ แทบจะตลอดเวลา การนั่งในท่าที่ถูกต้อง หลังตรง นั่งเต็มก้น พิงพนักเก้าอี้ จัดหน้าจอในระดับสายตาแบบไม่ต้องก้มคอจนงองุ้มคือสิ่งจำเป็น เพราะการต้องก้มหน้าจนคองุ้มลง แถมคิ้วก็ยังขมวดด้วยการหยี่ตาสู่กับแสงหน้าจอนานๆ เข้าก็ส่งผลให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าและลำคอได้ เราจึงควรใส่ใจในการใช้สรีระ และรู้จักพักร่างกายให้ผ่อนคลายจากอุปกรณ์ต่างๆ บ้าง

 
นอนหลับให้มีคุณภาพ

นอกจากท่านอนหงายเหยียดตัวปกติแล้ว ไม่ควรนอนขดตัวหรือเอียงตัวเพราะในระยะยาวอาจทำให้กระดูกผิดรูป การนอนให้มีคุณภาพคือการเข้านอนตั้งแต่ 4 ทุ่ม เพราะการเข้านอนเร็วและหลับได้เร็วก่อนเที่ยงคืนร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ได้ดีกว่าการนอนดึก ทำให้ร่างกายได้รับการฟื้นฟูอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผิวพรรณดี ไม่เหี่ยวย่นง่าย หรือรูขุมขนเปิดกว้าง




วิธีเสริมสร้างเพิ่มภูมิต้านทาน เพื่อร่างกายที่แข็งแรงแลดูอ่อนเยาว์ อ่านบทความเเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/

หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 43





















































รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ

smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า