แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - siritidaphon

หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 44
31
ยามาฮ่า Yamaha Tenere 700 ปี 2023
YAMAHA Tenere700 ใหม่ปี 2023 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบสี TFT ขนาด 5 นิ้ว พร้อมฟังก์ชันที่สามารถเชื่อมต่อกับมือถือผ่าน แอปพลิเคชัน My Ride และ ระบบเบรก ABS แบบปรับโหมดได้ด้วย ราคาสุดพิเศษที่ 479,000 บาท รับฟรี Gift Voucher 20,000 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์               Yamaha
   รุ่น                  ยามาฮ่า Yamaha Tenere 700 ปี 2023
   ประเภทรถ             Sport Touring Bigbike
   ปีที่เปิดตัว             2023
   ราคา                479,000 บาท

สเปค
   รูปแบบเกียร์          เกียร์ธรรมดา
   ระบบเกียร์           6 เกียร์ Constant Mesh
   รายละเอียดเครื่องยนต์  689 ซีซี 2 ลูกสูบเรียง 4 จังหวะ 8 วาล์วแบบ DOHC
   ระบบระบายความร้อน   น้ำ
   ระบบสตาร์ท          สตาร์ทไฟฟ้า (มือ)
   ขนาดเครื่องยนต์ (CC)  689 CC
   แบบเครื่องยนต์        4 จังหวะ
   ระบบจุดระเบิด         TCI
   ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง   เบนซิน 91, แก๊สโซฮอล์ 95 (E10), แก๊สโซฮอล์ 91, เบนซิน 95
   ระบบจ่ายน้ำมัน        หัวฉีด
   ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)  16 ลิตร
   ระบบกันสะเทือน       ล้อหน้า Upside-down telescopic, ล้อหลัง Swingarm
   ระบบเบรค            ล้อหน้า ดิสก์เบรก (ดิสเบรคคู่ไฮดรอริก 282 มม), ล้อหลัง ดิสก์เบรก (ดิสก์เบรกเดี่ยวไฮดรอลิก245 มม)
   แบบวงล้อ            ซี่ลวด
   ขนาดยาง             ล้อหน้า 90/90 - 21 M/C 54V, ล้อหลัง 150/70 R 18 M/C 70V
   ขนาด (ยาวxกว้างxสูง มม.) 2,370x905x1,455
   น้ำหนักตัวรถ              205.00 กก.


bigbike ยามาฮ่า Yamaha Tenere 700 ปี 2023 อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/motorcycle/bigbike/

32
สำหรับวัยทำงานในแต่ละวันเราใช้ร่างกายในการทำกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เช่น ทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตลอดวัน หรือประชุมตลอดเวลาไม่มีเวลาให้พักผ่อน ส่งผลต่อร่างกายให้เกิดความอ่อนล้า เครียดสะสม ไม่มีเวลาออกกำลังกายหรือทานอาหารที่มีประโยชน์ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ร่างกายของเราเสื่อมสภาพเร็วขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น และหากใครที่เริ่มมีอายุมากขึ้น แล้วยังมีพฤติกรรมในการใช้ชีวิตแบบนี้ คงจะไม่ดีนัก คงถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องบำรุงตัวเองด้วย “วิตามินเสริม” เพื่อดูแลร่างกายให้หายโทรม จะต้องกินวิตามินอาหารเสริมอะไรดี ให้เหมาะสมกับวัยทำงานในยุคนี้ ก่อนที่เราจะไปรู้จักกับวิตามินแต่ละชนิดที่เหมาะกับตัวเรา มาเข้าใจเรื่องวิตามินเสริมก่อนเลย

วิตามินอาหารเสริม คือ อาหารที่มีไว้ทานเสริมจากอาหารมื้อหลัก เพื่อทดแทนสารอาหารบางชนิดที่ขาดหายไปในร่างกาย ให้ร่างกายได้รับประโยชน์อย่างครบถ้วน จริงอยู่การรับประทานผักผลไม้ ก็ได้วิตามินเหมือนกัน แต่การจะได้วิตามินที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันอาจต้องทานผักผลไม้จำนวนมาก เราคงไม่อาจทานผักผลไม้ได้ครบทุกชนิด แต่วิตามินอาหารเสริมสามารถทดแทนสารอาหารในตรงนี้ได้เพียงทานวิตามินเสริมไม่กี่เม็ดร่างกายก็ได้รับสารอาหารครบถ้วน แต่ต้องเน้นย้ำเสมอว่าวิตามินอาหารเสริม  อาหารจานหลัก ดังนั้นจึงไม่สามารถทานวิตามินอาหารเสริมเพียงอย่างเดียวได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดกับร่างกายควรรับประทานมื้อหลัก และเสริมด้วยวิตามินที่ขาดหายไปให้ครบถ้วน ถึงแม้วิตามินอาหารเสริมจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ยังเป็นเพียงอาหารชนิดหนึ่ง ไม่สามารถรักษาโรคได้เหมือนยา แต่ทานเพื่อบำรุงร่างกายเท่านั้น

เมื่อเราเข้าใจความหมายของวิตามินอาหารเสริมกันแล้ว มาดูกันดีกว่าว่าจะมีวิตามินอาหารเสริมอะไรบ้างที่เหมาะกับคนวัยทำงาน ห้ามพลาดเลย!


1. วิตามิน A ช่วยบำรุงสายตา จากการจ้องจอตลอดวัน

สำหรับคนทำงานที่ต้องทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟนตลอดวัน คงหนีไม่พ้นต้องเพ่งสายตา จนดวงตาเมื่อยล้า ตาแห้ง ตาแดง หรือแสบตาเป็นประจำ ควรบำรุงด้วยวิตามินเอ เพราะจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นให้ดีขึ้น และยังช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวกับดวงตา เช่น โรคต้อกระจก หรือโรคกระจกตาเสื่อม เราสามารถทานวิตามินเอ เสริมภูมิร่างกายได้จากอาหารประเภทผักสีส้ม สีเหลือง และเนื้อสัตว์ อย่างเช่น แครอท, ฟักทอง, น้ำมันปลา หรือจะเสริมภูมิด้วยวิตามินแบบเม็ด ที่มีขายทั่วไปตามร้านขายยา ก็ช่วยได้อีกทางหนึ่ง แต่ก่อนรับประทานวิตามินเอแบบเม็ดทุกครั้ง ควรปรึกษาเภสัชกรให้ละเอียด เพราะวิตามินเอ เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน อาจต้องกินแล้วพักตามคำแนะนำของเภสัชกร เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูตัวเอง


2. วิตามิน B เปลี่ยนสมองล้า จากงานหนักให้สดชื่น

หากใครมีปัญหาคิดงานไม่ออก รู้สึกสมองไม่ค่อยปลอดโปร่ง หลงลืมเรื่องต่าง ๆ ในชีวิต นี่อาจเป็นสัญญาณของร่างกายที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน ลองบำรุงสมองให้กลับมาสดชื่นด้วยวิตามินบี ที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงของร่างกาย ช่วยบำรุงสมองให้กลับมาสดชื่นอย่างเก่า โดยเราสามารถหาวิตามินบีได้จากผลไม้ หรือธัญพืช เช่น กล้วยหอม, ถั่วลิสง และอัลมอนด์ เป็นต้น หรือจะเสริมด้วยวิตามินบีรวมชนิดเม็ด แต่สุดท้ายหากสมองเหนื่อยล้าจากการทำงานนอกจากกินอาหารเสริม การดูแลตัวเอง ทั้งการพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง หากทำได้ก็จะช่วยลดความเหนื่อยล้าจากการทำงานได้เหมือนกัน


3. วิตามิน C ฟื้นฟูร่างกายที่เหนื่อยล้า ให้แข็งแรง ไม่เจ็บป่วย

อากาศเปลี่ยนแปลง นอนหลับไม่เพียงพอ แถมยังมีการแพร่กระจายของโรคระบาด วิตามินซีคือตัวช่วยที่ไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าร่างกายได้รับวิตามินซีอย่างพอดี จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เราสามารถหาวิตามินซีมาบำรุงร่างกายได้ง่าย ๆ ทั้งจากในผักผลไม้อย่างเช่น ส้ม, แอปเปิล, มะละกอ, กะหล่ำปลี หรือผักโขม เพราะร่างกายของเราควรได้รับวิตามินซีในแต่ละวันอยู่ที่ 1,000 มิลลิกรัม หรือจะทานวิตามินซีแบบเม็ด ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ใครหลายคนนิยมทานเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินที่เหมาะสมควรทานวิตามินแบบเม็ดควบคู่กับผักผลไม้ ในมื้ออาหาร ก็ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงได้แล้ว
5 วิตามินเสริม ทางเลือกเพื่อสุขภาพ ของมนุษย์เงินเดือน


4. วิตามิน D ช่วยลดการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ จากโรคออฟฟิศซินโดรม

นั่งทำงานระหว่างวันก็ปวดตามร่างกาย ไม่ว่าจะทำอะไรก็เจ็บไปทั้งตัว หนึ่งในปัญหาของคนทำงานก็คือโรคออฟฟิศซินโดรม เพราะวิถีชีวิตเราต้องทำงานตลอดทั้งวัน ไม่ค่อยได้ขยับเปลี่ยนท่าทางมากนัก หากปล่อยไว้แบบนี้คงไม่ดีแน่ ลองบำรุงตัวเองด้วยวิตามินดี ที่ได้จากเนื้อปลา, ไข่ต้ม, อะโวคาโด หรือนม นอกจากสารอาหารจะไปช่วยลดอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อ จากการหักโหมใช้ร่างกายจากการทำงาน ยังช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงในวันที่อายุเริ่มมากขึ้น หรืออาจทานวิตามินดีแบบเม็ดเสริมให้ร่างกายอีกทางหนึ่ง นอกจากการรับประทานอาหารและวิตามินเสริม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในระหว่างทำงาน เช่น การเปลี่ยนท่าการทำงานทุก ๆ 20 นาที หรือการออกกำลังกายเบา ๆ หลังเลิกงานเป็นประจำ ก็จะช่วยลดโอกาสเกิดโรคออฟฟิศซินโดรมเช่นกัน


5. โอเมก้า-3 เสริมสร้างความจำ ฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกัน

ทำงานทั้งวัน ต้องใช้สมองในการจดจำเรื่องราวต่าง ๆ ไม่ว่าจะคิดงาน หรือประชุม พฤติกรรมการทำงานที่หนักหน่วงแบบนี้ ส่งผลให้ร่างกายทรุดโทรม มาทำให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงได้ไม่ยาก ด้วยการบำรุงร่างกายด้วยโอเมก้า-3 ที่เราจะได้จากการทานอาหารทะเล เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า หรือปลาซาร์ดีน เป็นต้น เพื่อช่วยฟื้นฟูระบบประสาท ลดอาการอัลไซเมอร์ ช่วยลดความเมื่อยล้าจากการทำงานระหว่างวัน นอกจากรับประทานอาหาร ยังมีอีกวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มโอเมก้า-3 ให้กับร่างกายคือการทานน้ำมันปลาในแบบแคปซูล ก็ช่วยให้ได้รับโอเมก้า-3 ในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวัน





กระชายมหิดล: วิตามินเสริม ทางเลือกเพื่อสุขภาพ ของมนุษย์เงินเดือน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/

33
บริการรถรับจ้างจังหวัดชลบุรี ที่ดีและคุณภาพและลูกค้าให้การยอมรับมานานกว่า 15 ปี ทั้ง รถกระบะรับจ้างชลบุรี รถ6ล้อรับจ้างชลบุรี รถสิบล้อรับจ้างชลบุรี รถ4ล้อใหญ่รับจ้างจังหวัดชลบุรี รถรับจ้างจังหวัดชลบุรี รถรับจ้างขนของจังหวัดชลบุรี รถเฮียบรับจ้างจังหวัดชลบุรี รถเฮียบรับจ้างพัทยา เป็นต้น พร้อมให้บริการ รับจ้างขนของทุกชนิด รับจ้างย้ายบ้าน รับจ้างขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ขนย้ายเครื่องจักร สินค้าการเกษตร ซึ่ง รถรับจ้าง ของเรามีความพร้อมด้านงานบริการเป็นอย่างมาก คนขับทุกคนมีประสบการณ์ และชำนาญทุกเส้นทาง ใกล้-ไกล ไปได้ไม่มีหลงทางแน่นอน สนใจงานบริการ รถรับจ้างขนของจังหวัดชลบุรี โทรหาเราได้เลย


บริการรับจ้างขนของ ขนย้ายทั่วไทย ตลอด 24 ชม.

เช็คราคาถูกๆโทรมาเลยนะคะ

พื้นที่ให้บริการ รถรับจ้างขนของชลบุรี ตามจุดอำเภอต่างๆดังนี้

รถรับจ้างขนของอำเภอ เมืองชลบุรี

รถรับจ้างขนของอำเภอ พนัสนิคม

รถรับจ้างขนของอำเภอ พานทอง

รถรับจ้างขนของอำเภอ บ่อทอง

รถรับจ้างขนของอำเภอบางละมุง

รถรับจ้างขนของอำเภอ บ้านบึง

รถรับจ้างขนของอำเภอ ศรีราชา

รถรับจ้างขนของอำเภอ เกาะสีชัง

รถรับจ้างขนของอำเภอ สัตหีบ

รถรับจ้างขนของอำเภอเกาะจันทร์

รถรับจ้างขนของอำเภอ หนองใหญ่

หาผู้ให้บริการรถรับจ้างขนของที่มีรถไว้คอยสนับสนุนการขนย้ายที่มากมายหลากหลายขนาด ยกตัวอย่างเช่นจะต้องมี รถกระบะรับจ้าง รถ 6 ล้อรับจ้าง รถสิบล้อรถเฮียบรับจ้าง รถเทลเลอร์ เป็นต้น ซึ่งทำให้เราสามารถที่จะคัดเลือกรถที่เหมาะกับงานที่เราต้องการจะขนย้ายได้อย่างสะดวกสบาย

มีพนักงานยกสินค้าไว้คอยบริการซึ่งแน่นอนว่าการขนของย้ายของไปต่างจังหวัดส่วนใหญ่แล้วจะมีสินค้าที่มีปริมาณมาก ยื่นยันงานย้ายบ้านย้ายสำนักงานย้ายออฟฟิศซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องใช้พนักงานยกของไม่ต่ำกว่า 4 คนจึงทำให้มีความจำเป็นเป็นอย่างมากสำหรับงานขนของไปต่างจังหวัด และพนักงานยกสินค้าทุกคนจะต้องเป็นผู้มีประสบการณ์และความชำนาญในงานขนย้ายมากเป็นพิเศษเพื่อลดปัญหาในเรื่องของสินค้าเสียหายหรือแตกชำรุด

ราคาไม่แพง รถรับจ้างไปต่างจังหวัด โดยส่วนใหญ่แล้วก็มีหลากหลายราคาขึ้นอยู่กับคุณภาพของผู้ให้บริการ เราควรที่จะเลือกรถขนของรับจ้างในราคาที่เหมาะสมไม่ถูกหรือไม่แพงจนเกินไป

มีการประกันสินค้ารถรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด ต้องขนย้ายสินค้าที่มีมูลค่าสูงสูงส่วนใหญ่แล้วทางผู้ให้บริการรถขนของรับจ้างจะทำการทำประกันสินค้าเพื่อป้องกัน เหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เช่นอุบัติเหตุที่ส่งผลต่อสินค้าของลูกค้าที่อาจจะทำให้เสียหายดังนั้นจึงมีความจำเป็นมากที่จะต้องทำประกันสินค้าให้กับลูกค้าเพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย

รถรับจ้างจะต้องมีผ้าใบคลุมหรือเป็นตู้ทึบเพื่อที่จะป้องกันฝนป้องกันฝุ่น เนื่องจากว่ารถต้องขนย้ายเดินทางไกลจึงจำเป็นอย่างยิ่งในสิ่งเหล่านี้ เพราะหากไม่มีก็จะทำให้สินค้าของเราเปียกหรือเสียหายได้



รถรับจ้างขนของเชียงใหม่: รถรับจ้างจังหวัดชลบุรีเดินทางไปได้ไม่มีหลงทางแน่นอนรับจ้างขนของทุกชนิด อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กทที่นี่ https://www.rodrubjang-youservice.com/category/105

34
สบายแคช สินเชื่อรีไฟแนนซ์
วงเงินสูงสุดของราคาประเมิน
ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.36% ต่อเดือน
ผ่อนชำระนานสูงสุด 84 เดือน
ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน
รายละเอียดสินเชื่อ
   สถาบันทางการเงิน
บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด
ดู บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ทุกผลิตภัณฑ์
   ชื่อสินเชื่อ
สบายแคช สินเชื่อรีไฟแนนซ์
   ประเภทสินเชื่อ
สินเชื่อรถแลกเงิน
   วัตถุประสงค์สินเชื่อ
สินเชื่ออเนกประสงค์
   ลักษณะหลักประกัน
สินเชื่อหลักทรัพย์ค้ำประกัน
   รายละเอียดหลักประกัน
รถยนต์ทุกยี่ห้อตามที่บริษัทฯ กำหนด
   ผู้มีสิทธิ์กู้
ผู้มีรายได้ประจำทุกประเภท
   คุณสมบัติผู้กู้
อายุระหว่าง 20-60 ปี
เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ หรือผู้ครอบครองตามที่ระบุในเล่มทะเบียนรถยนต์เท่านั้น
   วงเงินกู้
   ระยะเวลากู้
84 เดือน
   วิธีการคิดดอกเบี้ย
อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ (Flat Rate)
   อัตราดอกเบี้ย
ผู้กู้   จำนวนเงินกู้   ดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมต่อปี
ผู้กู้ทุกประเภท   ทุกจำนวน   4.35 %
   รายละเอียดอัตราดอกเบี้ย
ดอกเบี้ยต่ำ เริ่มต้นเพียง 0.36% ต่อเดือน
   หมายเหตุอัตราดอกเบี้ย
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอาจเปลี่ยนแปลงตามจำนวนเงินกู้ อาชีพและเงินเดือนของผู้กู้
   ดอกเบี้ยผิดนัด
ค่าธรรมเนียม
   ค่าธรรมเนียมจัดการเงินกู้
   ค่าธรรมเนียมเบิกถอน
โปรดสอบถามผู้ให้บริการสินเชื่อ
   ค่าการทวงหนี้
โปรดสอบถามผู้ให้บริการสินเชื่อ
   ค่าอากรแสตมป์
โปรดสอบถามผู้ให้บริการสินเชื่อ
   ค่าธรรมเนียมอื่นๆที่สำคัญ
การชำระคืน
   ยอดชำระขั้นต่ำ
โปรดสอบถามผู้ให้บริการสินเชื่อ
   สิทธิชำระเกินค่างวด
โปรดสอบถามผู้ให้บริการสินเชื่อ
   สิทธิชำระคืนก่อนกำหนด
ไม่มี
   หมายเหตุ
รับรถยนต์ทุกยี่ห้อตามที่บริษัทฯ กำหนด
กรณีไม่มีผู้ค้ำประกันอยู่ภายใต้เงื่อนไขการพิจารณาของบริษัทฯ
เงื่อนไขอื่นๆ เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
กรณีลูกค้าต่อภาษีป้ายทะเบียนแล้ว ต้องนำเอกสารการต่อภาษีตัวจริง และสำเนามาด้วย 1 ชุด


รถแลกเงิน: สบายแคช สินเชื่อรีไฟแนนซ์ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/money/article/111512

35
โรคขาดวิตามินเอ ยังพบได้ในท้องที่ชนบทบางแห่ง (พบบ่อยทางภาคอีสาน) และในเด็กที่ยากจน

ภาวะขาดวิตามินเอ ทำให้ประสาทตาส่วนที่เรียกว่าจอตา หรือเรตินา (retina) เสื่อม ทำให้เยื่อบุตาแห้งและต่อมน้ำตาไม่ทำงาน จึงอาจทำให้เด็กที่เป็นโรคนี้ตาบอดได้ ดังที่ชาวบ้านรู้จักกันดีว่าเป็น โรคเกล็ดกระดี่ขึ้นตา

สาเหตุ

มักจะพบในเด็กวัยแรกเกิดถึงอายุ 5 ปี เกิดจากการกินอาหารที่มีวิตามินเอน้อยไป เช่น กินแต่นมข้นหวาน กล้วยบดและข้าว โดยไม่ได้อาหารเสริมอื่น ๆ โรคนี้มักจะพบร่วมกันไปกับโรคขาดอาหาร บางรายอาจเป็นหลังจากเป็นโรคติดเชื้อ (เช่น หัด ปอดอักเสบ) หรือท้องเดินเรื้อรัง

ในผู้ใหญ่พบได้น้อย ถ้าพบมักมีสาเหตุจากโรคอื่น ๆ เช่น โรคตับเรื้อรัง โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง เป็นต้น มีผลทำให้การดูดซึมวิตามินเอน้อยลง


อาการ

เริ่มแรกจะมีอาการตาฟางหรือมองไม่เห็นเฉพาะตอนกลางคืนหรือในที่มืด ๆ (แต่มองเห็นเป็นปกติในเวลากลางวัน และในที่สว่าง ๆ) เนื่องจากจอตาเริ่มเสื่อม ต่อมาเยื่อตาขาวแห้ง เมื่อเป็นมากขึ้นเยื่อตาขาวจะย่นอยู่รอบ ๆ กระจกตาดำดูคล้ายเกล็ดปลา และกระจกตาดำซึ่งปกติสะท้อนแสงวาววับ จะแห้งและไม่มีประกาย ตาขาวจะเปลี่ยนเป็นสีเทาหรือสีเงิน เห็นเป็นจุดใหญ่ทางด้านหางตา เรียกว่า จุดบิทอตส์ (Bitot’s spot) หรือเกล็ดกระดี่ อาจเป็นที่ตาทั้ง 2 ข้าง ถ้ารักษาในระยะนี้จะแก้ได้ทัน

ในเด็กเล็กมักตรวจพบเมื่อมีการอ่อนตัวของกระจกตาดำแล้ว จะพบหนังตาบวม ปิดตาแน่น ไม่ยอมลืมตา


ภาวะแทรกซ้อน

ถ้าปล่อยทิ้งไว้กระจกตาจะเกิดการอ่อนตัว เป็นแผล และเกิดรูทะลุ มีเชื้อโรคเข้าไปในลูกตา ทำให้เกิดการอักเสบภายในลูกตา ตาบอดได้ นอกจากนี้ เด็กที่มีภาวะขาดวิตามินเอหากเป็นหัด อาจกลายเป็นโรคหัดชนิดรุนแรงได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

เยื่อตาขาวรอบ ๆ กระจกตาดำเป็นรอยย่น กระจกตาดำขุ่นมัวไม่สะท้อนแสงและเกล็ดกระดี่ตรงด้านหางตา

ถ้าจำเป็น แพทย์จะทำการตรวจระดับวิตามินเอในเลือด

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. เมื่อเริ่มมีอาการตาบอดกลางคืน หรือเริ่มมีเกล็ดกระดี่ขึ้นตา แพทย์จะให้กินวิตามินเอชนิดแคปซูล หรือหากจำเป็นอาจใช้วิตามินเอชนิดฉีด

2. ถ้ามีการติดเชื้ออักเสบ แพทย์จะรับไว้รักษาในโรงพยาบาล ให้กินวิตามินเอชนิดแคปซูล หรือฉีดวิตามินเอ ร่วมกับให้กินยาปฏิชีวนะ เช่น อะม็อกซีซิลลิน อีริโทรไมซิน ถ้าเด็กปิดตาแน่น อย่าพยายามเปิดตาเด็ก เพราะอาจทำให้กระจกตาดำแตกทะลุได้

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการตาฟางหรือมองไม่เห็นเฉพาะตอนกลางคืนหรือในที่มืด ๆ  ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคขาดวิตามินเอ ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลา 
    ขาดยาหรือยาหาย
    กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

โรคนี้เป็นแล้วทำให้ตาบอดได้ แต่เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยการกินอาหารที่มีวิตามินเอสูง เช่น เนื้อ ตับ ไข่ นม ฟักทอง มะเขือเทศ มะละกอสุก ผักใบเขียว (ผักบุ้ง ใบตำลึง ใบมันสำปะหลัง) พริกที่เผ็ด ๆ จึงควรแนะนำให้เด็ก ๆ กินอาหารเหล่านี้ให้มากเป็นประจำ

ถ้าไม่แน่ใจว่าเด็กจะได้รับอาหารที่มีวิตามินเอเพียงพอ อาจให้กินวิตามินเอเสริม

ข้อแนะนำ

เด็กที่มีภาวะขาดวิตามินเอ เมื่อเป็นหัด ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อพิจารณาให้วิตามินเอเสริม ซึ่งจะช่วยลดความพิการและการเสียชีวิตลงได้ (ดู "โรคหัด" เพิ่มเติม)


โรคขาดวิตามินเอ/เกล็ดกระดี่ขึ้นตา (Vitamin A deficiency)  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/disease-conditions

36
เชื่อว่าหลายๆคนที่เคยจัดฟัน คงเคยประสบปัญหา ทำไมยิ่งจัดฟันยิ่งทำให้ฟันยื่น ฟันห่าง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วนั้น การที่ไปจัดฟันก็น่าจะทำให้ฟันยุบลงถึงจะถูกตามหลักความเป็นจริง จากเหตุการณ์นี้คนไข้ก็อาจจะเกิดความรู้สึกด้านลบกับการจัดฟัน ใจคอไม่ดีว่าทำไมยิ่งจัดฟันยิ่งเสีย หรือบางคนอาจจะมองว่านี่คือการเลี้ยงไข้ของทันตแพทย์ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นแนวคิดที่เข้าใจผิดและอันตรายต่อตัวผู้จัดฟัน และทันตแพทย์ด้วยเช่นกัน
โดยในวันนี้ทางด้าน Clinic จะขอมาๆไขข้อสงสัย ให้หายข้องใจเกี่ยวกับประเด็นนี้ให้ทุกท่านได้ทราบถึงความเป็นจริง ว่าเพราะเหตุใด ทำไมยิ่งจัดฟัน ยิ่งทำให้ฟันห่าง ฟันยื่น โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้


เหตุผลที่จัดฟัน แล้วเกิดฟันยื่น ?

เมื่อท่านได้ทำการจัดฟันไปซักระยะเวลาหนึ่งแล้วนั้น โดยธรรมชาติของร่างกายของมนุษย์ทุกคน ฟังหน้าล่างจะเริ่มขยับและเปลี่ยนแปลงไวและมากกว่าฟันหน้าบนเป็นอย่างมาก จึงทำให้หลายๆคนมองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงทีละเล็กละน้อยของฟันหน้าบนหรือฟันหน้าล่างมากนัก แต่ที่จะสังเกตเห็นคือความห่างเพิ่มมากขึ้นของฟันหน้าล่างและบน ซึ่งหากว่าสัดส่วนต่างๆเริ่มเข้าที่แล้ว ทั้งฟันหน้าบนและล่างจะทำการเข้าที่เรียงตัวสวยงามตามที่ทันตแพทย์ตั้งใจไว้นั่นเอง
และเหตุผลนี้เองที่ทำให้หลายๆคนมองเห็นและเกิดการตั้งคำถามว่าทำไมยิ่งจัดฟันถึงยิ่งทำให้ฟันห่าง ฟันยื่น ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่อย่างที่คิดเลย


เหตุผลที่จัดฟัน แล้วเกิดฟันห่าง ?

อีกเหตุการณ์หนึ่งที่หลายๆคนได้พบเจอเมื่อทำการจัดฟัน นั่นก็คือ ทำไมยิ่งจัดฟัน ยิ่งทำให้ฟันห่างออกจากกัน จากปกติก่อนจัดฟันยังเบียดชิดติดกัน ทำให้หลายๆคนเกิดความกังวลใจต่างๆ ถึงวิธีการรักษา ถึงการไม่สำเร็จในการรักษา

เนื่องจากมีหลายคนมากที่ประสบปัญหาแบบนี้แล้วเกิดภาวะเครียดตามมา จึงอยากจะขอบอกแบบนี้ว่า การติดตั้งอุปกรณ์จัดฟันนั้น ไม่สามารถทำให้ฟันเรียงตัวสวยได้ในทันที เนื่องจากว่าฟันของแต่ละคนที่มีการเรียงตัวผิดธรรมชาตินั้นมีความแตกต่างกันมากมาย ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงต้องทำการจัดรูปแบบฟัน ปรับตำแหน่ง ปรับระดับฟัน ให้ถูกต้องเรียบร้อยตามธรรมชาติที่ควรจะเป็นเสียก่อน ซึ่งในขณะที่อยู่ในขั้นตอนเหล่านี้นี่เอง ฟันที่อยู่ในตำแหน่งที่บิดเบี้ยวไม่ได้ตั้งตรงเหมือนฟันตามธรรมชาติกำลังปรับสมดุล และพยายามเรียงตัวตรง ซึ่งในบริเวณที่ฟันเกิดการซ้อนทับยิ่งต้องคลี่ฟันให้ห่างออกจากกัน แล้วจึงจะสามารถทำการบิดฟันให้เรียงตัวได้ในอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะวางแผลขั้นตอนเหล่านี้อย่างละเอียด จึงไม่จำเป็นต้องกังวลใดๆ หากว่าจัดฟันแล้วเกิดฟันห่างขึ้นมา เพราะ คุณมาถูกทางแล้วนั่นเอง


บุคคลใดบ้าง ทันตแพทย์ไม่แนะนำให้จัดฟัน ?

การจัดฟันนั้น มีหลายสาเหตุด้วยกัน โดยบางคนอาจจะทำการจัดฟันเพื่อการรักษา บางคนอยากมีสุขภาพช่องปากที่ดี บางคนอยากมีฟันสวย มีหลายสาเหตุต่างๆมากมายตามแต่ละบุคคล แต่ก็มีบุคคลกลุ่มหนึ่งที่ทันตแพทย์ผู้เชียวชาญ จะไม่แนะนำให้ทำการจัดฟันนั่นก็คือ กลุ่มผู้วัยใหญ่และวัยสูงอายุ ที่มีสุขภาพช่องปากที่ไม่ค่อยดี เช่น เป็นโรคปริทันต์อักเสบขั้นรุนแรง ที่ทำการจัดฟันแล้วก็ไม่หายโดยมีแต่ทรงกับทรุด ทันตแพทย์จะไม่แนะนำให้ฝืน แต่จะหาวิธีการรักษาฟันด้วยวิธีอื่น เพื่อให้ปลอดภัยต่อช่องปาก

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้อาจจะช่วยให้ท่านที่กำลังทำการจัดฟันและประสบปัญหาฟันห่าง ฟันยื่น ยิ่งจัดยิ่งไม่เข้าที่ได้หายเครียด หายกังวลกันบ้างแล้วในเบื้องต้น โดยต้องขอบอกเลยว่าการจัดฟันนั้นต้องดูกันเป็นปี ไม่ใช่เดือนสองเดือน โดยการจัดฟันนั้นต้องใช้เวลา ตามขั้นตอน ค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งระยะเวลานั้นก็ขึ้นอยู่กับปัญหาในช่องปากของแต่ละคนด้วยเช่นกัน แต่ต้องบอกเลยว่าแม้จะถอดเหล็กจัดฟันแล้ว ก็ยังไม่ใช่การเสร็จขั้นตอน เพราะต้องทำการบีบฟันให้เข้ารูปด้วยรีเทนเนอร์อีกระยะเวลาหนึ่งด้วย




เพราะเหตุใด “จัดฟัน” ยิ่งทำให้ฟันยื่น ฟันห่าง ? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

37
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ตระหนักถึงความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายด้านความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร จึงริเริ่มดำเนินโครงการ โตโยต้าถนนสีขาว มากว่า 35 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปลูกฝังวินัยจราจรและน้ำใจของการขับรถที่ดีให้กับสังคมไทย ซึ่งในปีนี้ บริษัทฯ มีความตั้งใจในการรณรงค์ความปลอดภัยบนท้องถนน ผ่านการเน้นย้ำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนตระหนักถึงเรื่อง “ความเร็ว” ด้วยการขับขี่โดยใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด ภายใต้แนวคิด“ยิ่งเร็ว..ยิ่งสูญเสียเร็ว” เพื่อช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาล และเพื่อสร้างความมั่นใจให้การเดินทางท่องเที่ยวเป็นไปอย่างปลอดภัยตลอดเส้นทาง บริษัทฯ พร้อมด้วยผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ จึงจัดให้มีบริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ฟรี 7 ระบบสำคัญ รวม 24 รายการ ในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวสงกรานต์เพื่อเตรียมความพร้อมรถยนต์ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถนำรถยนต์ไปตรวจเช็กได้ ตั้งแต่วันนี้ - 30 เมษายน 2567 และให้บริการจุดพักรถ ณ บริเวณเส้นทางหลวงขาออกไปยังทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อส่งมอบความสุข และความปลอดภัยในระหว่างการเดินทาง

รายการตรวจเช็ก 24 รายการ ดังนี้

1. ระบบช่วงล่าง
ยางกันฝุ่นเพลาขับ
โช้กอัพหน้าหลัง
ลูกปืนล้อ
ลูกหมากปีกนก

2. ระบบเบรก
ระบบฟรีแป้นเหยียบ/คลัตช์/เบรกมือ

3. ระบบแอร์
ระบบเครื่องปรับอากาศ พัดลม และน้ำยาแอร์

4. ระบบไฟฟ้า
แบตเตอรี่/ระดับน้ำกลั่น
ระบบไฟส่องสว่าง/แตร

5. ระบบของเหลว
ระดับน้ำมันเครื่อง
ระดับน้ำในถังสำรอง/ระดับน้ำยาหล่อเย็น
ระดับน้ำมันเบรก
ระดับน้ำมันพาวเวอร์
ระดับน้ำมันเกียร์
รอยรั่วและความผิดปกติของหม้อน้ำ
รอยรั่วและความผิดปกติของท่อทางน้ำ
ระดับน้ำมันเฟืองท้าย (เพิ่มเติม เฉพาะรถที่มีอุปกรณ์ดังกล่าว)
ระดับน้ำมันทรานเฟอร์ (เพิ่มเติม เฉพาะรถที่มีอุปกรณ์ดังกล่าว)

6. ระบบเครื่องยนต์
ไส้กรองอากาศเครื่องยนต์
ตรวจเสียงเครื่องยนต์ขณะสตาร์ต
สายพานต่าง ๆ
รอยรั่วและความผิดปกติของเครื่องยนต์
รอยรั่วและความผิดปกติของเกียร์

7. ระบบความปลอดภัยอื่นๆ
ที่ปัดน้ำฝน/น้ำล้างกระจก
สภาพยางรถยนต์
เข็มขัดนิรภัย

รอยรั่วและความผิดปกติของพวงมาลัยพาวเวอร์
 
นอกจากนี้ โตโยต้า ยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐต่างๆในพื้นที่ พร้อมด้วยผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า จัดจุดพักรถจำนวน 4 แห่ง ได้แก่
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ จุดให้บริการประชาชนทางเข้า อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ภาคเหนือ ณ จุดให้บริการประชาชน ริมปิง ถนนสาย117 ต.บางม่วง  อ.เมืองนครสวรรค์  จ.นครสวรรค์
ภาคใต้ ณ  จุดตรวจรถโดยสารสาธารณะ ตลาดพูนทรัพย์ ต.สระพัง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี
ภาคตะวันออก ณ ศูนย์ปฏิบัติการร่วมฯ (ด่านหลัก) จุดสกัด 344 ขาเข้าเยื้อง บ.คิวเอ็ม บี จำกัด อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี
โดยมีการให้บริการน้ำดื่ม ผ้าเย็น และผลิตภัณฑ์จากโตโยต้าธุรกิจชุมชนพัฒน์ แก่ผู้ที่เดินทางออกต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11- 13 เมษายน 2567
 
โตโยต้า มุ่งมั่นรณรงค์และขับเคลื่อนสังคมแห่งความปลอดภัยในการเดินทาง และขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการ “สร้างสังคมคนขับรถดี” ลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนด้วยการขับขี่ตามความเร็วที่กฎหมายกำหนด ปฏิบัติตามกฎจราจร มีวินัย และน้ำใจให้กับเพื่อนร่วมทาง เพื่อขับเคลื่อนความสุขและความปลอดภัย ในการใช้รถใช้ถนนให้แก่คนไทยทุกคนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567

*สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า TOYOTA CONTACT CENTER 1486


tokyo motor show: Toyota รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยช่วงสงกรานต์ พร้อมให้บริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ฟรี  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/tokyomotorshow/

38

อาการเหน็บชา เชื่อหลายคนต้องเคยมีอาการแบบนี้ โดยเฉพาะเวลาที่นั่งนานๆ โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงาน ที่ต้องนั่งทำงานตลอดทั้งวัน ก็อาจจะทำให้เกิดอาการเหน็บชาได้ เพราะฉะนั้น ในเรื่องของการพฤติกรรมการใช้ชีวิต ก็มีส่วนที่อาจจะทำให้เกิดอาการดังกล่าวได้ ซึ่งอาการชา ถึงแม้ว่าจะไม่มีอันตรายมากและสามารถแก้ไขได้ด้วยการเลี่ยงหรือเปลี่ยนอิริยาบถที่ทำให้เกิดอาการชา แต่โรคเหน็บชาที่กล่าวถึงนี้เกิดจากการขาดวิตามินบี 1 โดยอาการสามารถเกิดขึ้นได้หลายแบบขึ้นอยู่กับอายุและอวัยวะที่ได้รับผลกระทบ โดยแบ่งได้เป็น เหน็บชาในเด็ก และเหน็บชาในผู้ใหญ่ 


โดยวันนี้ทางเราจะมาพูดถึงอาหารที่สามารถช่วยป้องกันอาการเหน็บชาได้ เพื่อที่จะได้ระมัดระวังและป้องกันเพื่อที่จะไม่ให้เกิดอาการเหน็บชา ก่อนที่เราจะมาพูดถึงอาหารนั้น เราจะมาบอกถึงสาเหตุของการเกิดอาการเหน็บชาก่อนว่า พฤติกรรมแบบไหน หรืออะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเหน็บชา โดยสาเหตุที่สำคัญของเหน็บชา คือการรับประทานอาหารที่ขาดวิตามินบี 1 หรือภาวะที่ร่างกายขาดวิตามิน บี 1 โดยโรคนี้จะพบได้น้อยมากในผู้ที่รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินอยู่มาก  โดยส่วนใหญ่จะพบในกลุ่มคนที่ติดสุราเรื้อรัง เพราะในแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ลดการดูดซึมของวิตามินบี 1 และเพิ่มการขับวิตามินบี 1 ออกจากร่างกาย ทำให้ร่างกายดูดซึมและสะสมวิตามินบี 1 ไม่เพียงพอ นอกจากนี้ เหน็บชาจากกรรมพันธุ์ เป็นภาวะที่ทำให้ร่างกายต่อต้านการดูดซึมวิตามิน บี 1 หรือเกิดภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน หรือเป็นโรคเอดส์  รวมไปถึงผู้ที่มีอาการท้องเสียเป็นเวลานาน หรือการใช้ยาขับปัสสาวะ และผู้ที่กำลังรับการรักษาด้วยการฟอกไต

โรคเหน็บชานั้น ก็มีสาเหตุมาจากการรับประทานอาหาร ถ้าหากเรารับประทานอาหารที่มีสารทำลายวิตามินบี 1 เช่น ปลาร้า ใบชา ใบเมี่ยง หมากพลู ปลาส้มดิบ แหนมดิบ หอยลายดิบ และปลาน้ำจืดดิบ  ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอาการเหน็บชาได้ สำหรับผู้ที่เป็นโรคตับเรื้อรัง เช่น ตับแข็ง ซึ่งจะทำให้ตับไม่สามารถนำวิตามินบี 1 ไปใช้ประโยชน์ได้ และหญิงตั้งครรภ์และผู้ที่กำลังให้นมบุตร ผู้ที่รับประทานอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลมาก แต่รับประทานอาหารที่มีวิตามินบี 1 น้อย ก็อยู่ในความเสี่ยงที่อาจจะเกิดอาการเหน็บชาได้


ดังนั้น เราควรเลือกที่จะรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และช่วยในเรื่องของการรักษา ป้องกันอาการเหน็บชา การป้องกันเหน็บชานั้น  สามารถทำได้ด้วยการรับประทานอาหาร เพราะช่วยในการป้องกันการขาดวิตามิน บี 1 ได้ด้วยการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน บี 1 รวมไปถึงวิตามินชนิดอื่น ๆ ได้แก่ ถั่วและธัญพืชที่อุดมด้วยวิตามิน บี 1 เช่น ถั่วลิสง ถั่วเหลือง ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วเขียวและงา ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ จมูกข้าวสาลี และรำข้าว ธัญพืชเต็มเมล็ด เนื้อวัว เนื้อปลา และเนื้อหมูไม่ติดมัน ตับ ไต และไข่แดง นมและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม เช่น โยเกิร์ต รวมไปถึงผักบางชนิด เช่น หน่อไม้ฝรั่ง ฟักทอง กะหล่ำดาว ผักโขม หน่อไม้ฝรั่ง เห็ด และผลไม้เช่น แตงโม น้ำส้ม ซึ่งอาหารที่กล่าวมานั้น เป็นอาหารที่ช่วยลดอาการเหน็บชาได้


อย่างไรก็ตาม อาการเหน็บชานั้น ป้องกันได้ด้วยการที่เราควรจำกัดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของอาการเหน็บชา ซึ่งการงดการดื่มแอลกอฮอล์ก็จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดเหน็บชาให้น้อยลงได้ เพราะแอลกอฮอล์มีผลต่อร่างกายในการดูดซึมวิตามิน บี 1 โดยเฉพาะผู้ที่ติดสุราหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป ควรได้รับการตรวจภาวะขาดวิตามิน บี 1 อย่างสม่ำเสมอ และควรหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจมีสารทำลายวิตามินบี 1 ที่สำคัญที่สุดคือ เราควรหมั่นออกกำลังกายเพื่อที่จะได้มีสุขภาพที่ดีและแข็งแรง อยากให้ทุกคนหันมาใส่ใจในเรื่องของการดูแลรักษาสุขภาพ ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อที่จะได้ลดความเสี่ยงของการเกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆตามมา และควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อที่จะได้มีสุขภาพที่ดีในระยะยาว



อาหารสุขภาพ ป้องกันเหน็บชา อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://thetastefood.com/

39
การล้างแอร์เป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลรักษาแอร์ทุกเครื่อง เพราะเป็นสิ่งที่มีผลต่อการทำงานของแอร์โดยตรง แล้วเราควรล้างแอร์บ่อยแค่ไหน? บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับข้อมูลทุกด้านที่เกี่ยวกับการล้างแอร์ เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานและการประหยัดพลังงานอย่างดีที่สุด ไปดูกันเลย!


ข้อดีของการล้างแอร์มีอะไรบ้าง

นอกจากข้อสงสัยที่ว่าเราควรล้างแอร์บ่อยแค่ไหนแล้ว หลายคนก็อาจตั้งคำถามว่า การล้างแอร์นั้นจำเป็นหรือไม่ ซึ่งข้อดีของการล้างแอร์เป็นประจำ มีดังนี้

    เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอร์ ทำให้อากาศสามารถไหลเวียนได้สะดวกขึ้น
    ช่วยประหยัดพลังงานได้มากขึ้น เพราะฝุ่นที่เกาะตามแผ่นกรองจะทำให้แอร์เย็นได้ยาก จำเป็นต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้นเพื่อให้อุณหภูมิเย็น การล้างแอร์จึงช่วยกำจัดสิ่งกีดขวางที่ทำให้แอร์ทำงานหนักออกไป
    ยืดอายุการใช้งานของแอร์และป้องกันไม่ให้แอร์เกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานหนักเกินไป
    ป้องกันปัญหาสุขภาพที่เกิดจากฝุ่นละอองและเชื้อโรคที่สะสมภายในแอร์
    ทำให้ห้องสะอาดและสดชื่น เนื่องจากฝุ่นละอองและเชื้อโรคถูกขจัดออกไปแล้ว


ปัญหาที่เกิดจากการไม่ล้างแอร์

การไม่ล้างแอร์อาจมีผลกระทบที่มากกว่าที่คิด โดยเฉพาะความสะอาดภายในแอร์ที่มีผลต่อสุขภาพและประสิทธิภาพในการทำงานของตัวเครื่อง การล้างแอร์จึงไม่เพียงแค่เรื่องความสะอาดเท่านั้น แต่เป็นการป้องกันปัญหาที่อาจมีผลกระทบในด้านต่าง ๆ การเข้าใจถึงปัญหาเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่แพ้การรู้ว่าควรล้างแอร์บ่อยแค่ไหน โดยปัญหาที่พบบ่อยเมื่อไม่ล้างแอร์ มีดังนี้


1.แอร์พังเร็ว

การไม่ล้างแอร์อย่างสม่ำเสมออาจทำให้แอร์เสียหายได้เร็วขึ้น เพราะจะมีฝุ่นละอองและเชื้อโรคมากมายที่สะสมอยู่ภายในแอร์ ซึ่งจะส่งผลให้ระบบการไหลเวียนของอากาศไม่สะดวก ทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น เพื่อกำจัดฝุ่นละอองและเชื้อโรคเหล่านี้ จนอาจทำให้แอร์มีอายุการใช้งานสั้นลงหรือต้องซ่อมแอร์เร็วกว่าที่ควร


2.มีเชื้อโรคสะสม

แอร์ที่ใช้งานมานานอาจเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นละอองและเชื้อโรค ซึ่งหากไม่ล้างแอร์เป็นประจำ เชื้อโรคเหล่านี้จะเจริญเติบโตและแพร่กระจายในอากาศที่ผ่านออกมาจากแอร์ เมื่อเราสูดดมอากาศที่มีเชื้อโรคเข้าไปก็อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด หรือปอดอักเสบ ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต


3.เปลืองไฟมากขึ้น

ควรล้างแอร์บ่อยแค่ไหน ถ้าไม่ล้างจะเปลืองไฟมากขึ้นหรือไม่? อย่างที่บอกในข้างต้นว่าการไม่ล้างแอร์จะทำให้ระบบทำความเย็นต้องทำงานมากขึ้น เพื่อให้แอร์ทำความเย็นได้ตามปกติ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเครื่องใช้ไฟฟ้ามีการทำงานเพิ่มขึ้นก็จะทำให้อัตราการใช้พลังงานและค่าไฟเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย


4.แอร์ไม่เย็น

แอร์อาจไม่สามารถทำความเย็นได้อย่างที่ควรจะเป็น เพราะสิ่งสกปรกและฝุ่นละอองที่สะสมอยู่ภายในเครื่องหากคุณไม่ล้างแอร์เป็นประจำ เพราะสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นกับดักและขัดขวางการไหลของอากาศที่ตัวแอร์ ซึ่งอาจทำให้ระบบทำความเย็นทำงานได้ไม่ดี จนเกิดปัญหาแอร์ไม่เย็นหรือแอร์เย็นช้า


5.ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม

การไม่ล้างแอร์จะส่งผลให้ฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่าง ๆ สะสมอยู่ภายใน และแอร์ต้องทำงานหนักขึ้น จนปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้เกิดปัญหาภาวะโลกร้อน โดยการดูแลและทำความสะอาดแอร์อย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการใช้แอร์ที่ไม่มีประสิทธิภาพ


รู้ได้อย่างไรว่าควรล้างแอร์แล้ว เช็ก 3 สัญญาณเตือนเมื่อถึงเวลาล้างแอร์

ตามหลักทั่วไปแล้ว มีคำแนะนำให้ล้างแอร์ทุก 6 เดือน หรือประมาณปีละ 2 ครั้ง เนื่องจากพัดลมแอร์มักจะมีฝุ่นเกาะมากจนอาจทำให้ลมแอร์ไม่สามารถที่จะออกมาได้อย่างที่ควรจะเป็น อย่างไรก็ตาม เราควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ประกอบ เพื่อดูว่าแอร์ที่บ้านหรือคอนโดของตัวเองนั้นควรล้างแอร์บ่อยแค่ไหน จากปัจจัยดังนี้


1.ความถี่ในการเปิดแอร์

แอร์ทำงานโดยการดูดอากาศเข้ามาภายในเครื่องเพื่อหมุนเวียนและส่งลมเย็นออกมา ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้บ่อยครั้งจึงอาจมีฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกเกาะอยู่ภายในเครื่อง ทำให้ระบบระบายความเย็นทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้น หากเปิดใช้งานแอร์เป็นประจำ อาจพิจารณาล้างแอร์ในความถี่ที่เร็วขึ้น เพื่อให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งาน


2.ระยะเวลาในการเปิดใช้งาน

ถ้าถามว่าควรล้างแอร์บ่อยแค่ไหน คำตอบที่เหมาะสมของแต่ละคน อาจต้องดูระยะเวลาในการเปิดใช้งานแอร์ประกอบด้วย เพราะยิ่งเปิดใช้งานแอร์ติดต่อกันนานเท่าใด ก็ยิ่งมีโอกาสที่แอร์จะสกปรกมากขึ้นเท่านั้น


3.ตำแหน่งของที่อยู่อาศัย

ระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการล้างแอร์นั้นมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องตำแหน่งที่อยู่อาศัยโดยตรง โดยถ้าเป็นอาคารที่อยู่ติดถนน หรืออยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่ที่อยู่ระหว่างทำการก่อสร้าง ก็มักมีฝุ่นละอองจากสภาพแวดล้อมภายนอกเข้ามาสะสมอยู่ในเครื่องแอร์ได้มากกว่าพื้นที่ปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องล้างแอร์บ่อยขึ้น


ระยะเวลาที่เหมาะสมในการล้างแอร์

ควรล้างแอร์บ่อยแค่ไหน? การล้างแอร์ทุก 6 เดือน หรือปีละ 2 ครั้ง เป็นระยะเวลาที่เหมาะสม ซึ่งในการล้างแอร์แต่ละครั้งนั้นจะทำให้ประสิทธิภาพการทำความเย็นของแอร์ดีขึ้นถึง 10% แถมยังช่วยประหยัดไฟได้ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย นอกจากนี้ ควรฉีดล้างทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศของแอร์ด้วยน้ำเปล่าทุกสัปดาห์ เพื่อช่วยลดการอุดตันของแผ่นกรองแอร์


ล้างแอร์แล้วต้องเติมน้ำยาแอร์ไหม จำเป็นต้องเติมน้ำยาแอร์ทุกครั้งหรือไม่ เช็กเลย

หลังจากรู้แล้วว่าควรล้างแอร์บ่อยแค่ไหน บางคนก็อาจเคยได้ยินเพิ่มเติมมาว่า การล้างแอร์ต้องเติมน้ำยาแอร์ด้วย ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว การล้างแอร์ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำยาแอร์ทุกครั้ง เนื่องจากน้ำยาแอร์เป็นสารที่ระเหยยากและไม่สลายตัวได้ง่าย ดังนั้น หากแอร์ไม่รั่วไหล น้ำยาแอร์ก็จะยังคงอยู่ในระบบแอร์เหมือนเดิม




บริหารจัดการอาคาร: ควรล้างแอร์บ่อยแค่ไหน? เจาะลึกทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการล้างแอร์ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://snss.co.th/dt_post/technical-services/

40
นักวิทย์ ม.มหิดล วิจัยพบ "เวสิเคิลนาโน" จาก "กระชายขาว" มีฤทธิ์ฆ่าเซลล์มะเร็งลำไส้ ไม่กระทบเซลล์ปกติ และเซลล์มะเร็งสมอง คาด 2-3 ปี ขยายผลศึกษาในสัตว์ทดลอง ส่วนเวสิเคลนาโนจาก "ส้มโอ" ต้ายการอักเสบของเซลล์สมอง

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. รศ.ดร.อาทิตย์ ไชยร้องเดื่อ อาจารย์ประจำภาควิชาสรีรวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ ม.มหิดล กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการศึกษา "เวสิเคิลขนาดนาโน" ที่สร้างและหลั่งออกมาจากเซลล์สัตว์ เพื่อพัฒนาไปเป็นตัวบ่งชี้ทางชีวภาพสำหรับการวินิจฉัย และการพยากรณ์โรคและเป็นเป้าหมายใหม่สำหรับรักษาโรคชนิดต่างๆ อย่างกว้างขวาง แต่ข้อมูลและประโยชน์ของเวสิเคิลขนาดนาโนที่สกัดได้จากพืชยังมีค่อนข้างจำกัด ทางกลุ่มจึงทำการวิจัยพบว่า เวสิเคิลขนาดนาโนจาก "กระชายขาว" มีฤทธิ์ฆ่าเซลล์มะเร็งลำไส้ แต่ไม่มีผลต่อเซลล์ลำไส้ปกติ โดยงานวิจัยได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่แล้วในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ "PLOS ONE"


นอกจากเซลล์มะเร็งลำไส้แล้ว ยังพบว่า เวสิเคิลจากกระชายมีฤทธิ์ฆ่าและยับยั้งการเคลื่อนที่ของเซลล์มะเร็งสมองชนิดที่พบบ่อยในเด็กอีกด้วย จากการค้นพบดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการพัฒนาเวสิเคิลจากกระชายสำหรับการรักษาโรคมะเร็ง คาดว่าอีก 2 - 3 ปีข้างหน้าจะสามารถขยายผลสู่ระดับสัตว์ทดลอง

รศ.ดร.อาทิตย์ กล่าวว่า กลุ่มวิจัยยังได้ศึกษาประโยชน์ของเวสิเคิลขนาดนาโนจากผลไม้ที่นิยมบริโภคในประเทศไทย คือ "ส้มโอ" โดยพบเป็นครั้งแรกว่า มีฤทธิ์ต้านการอักเสบของเซลล์สมอง ซึ่งอาจนำไปต่อยอดพัฒนาสู่การสร้างยาหรือวิธีการรักษาใหม่สำหรับโรคต่างๆ ที่เกิดจากการอักเสบของเซลล์สมอง อาทิ โรคอัลไซเมอร์ และโรคพาร์กินสันได้ต่อไปในอนาคต


"หวังว่าการศึกษาประโยชน์ของเวสิเคิลจากพืชสมุนไพรและผลไม้ไทย จะช่วยยกระดับเศรษฐกิจของเกษตรกรไทยให้เจริญเติบโต ตลอดจนเป็นการจุดประกายให้นักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่เห็นความสำคัญของการใช้ประโยชน์จากธรรมชาติใกล้ตัว และทำให้เกิดความยั่งยืนต่อไป



กระชายพลัส: กระชายขาว ต้านเซลล์มะเร็งลำไส้-สมอง จ่อศึกษาในสัตว์ทดลอง อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/

41
รถรับจ้างขนของจังหวัดลำปาง บริการที่เป็นเลิศ เพราะเรารู้ลึกรู้รอบรู้จริงเกี่ยวกับการรับงานทุกชนิด ทำให้ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ต่างติดใจและกลับมาใช้ บริการรถรับจ้างขนของ ของเราอีกให้เป็นเจ้าประจำกันเป็นจำนวนมาก ทั้ง รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้าง รถสิบล้อรับจ้าง รถรับจ้างขนของทั่วไป จะย้ายบ้าน ย้ายที่พัก หอพัก หรือขนย้ายสินค้าทางการเกษตร เฟอร์นิเจอร์ เครื่องจักรเป็นต้น การบริการของเราตลอดระยะเวลากว่า 10ปี  สิ่งนี้เป็นเครื่องหมายยืนยันคุณภาพการทำงานของรถรับจ้างขนของจังหวัดลำปางเป็นอย่างดี

รถรับจ้างขนของจังหวัดลำปางเปิดบริการทุกวันมั้ย?

รถรับจ้างขนของจังหวัดลำปาง มีการให้บริการกันทุกวัน ตลอดทั้งวัน 24 ชม.โดยผู้คนในพื้นที่มักจะเรียกให้รถรับจ้างขนย้ายจังหวัดลำปางไปส่งสิ่งของ สินค้า ขนของ โดยไม่มีวันหยุด บริการด้วยใจและราคาเป็นกันเองสุดๆ ทำให้เราครองใจชาวลำปางได้เป็นอย่างดี ด้วยบริการที่เป็นเลิศไม่มีขาดตกบกพร่องสิ่งใด โดยบริการอย่างดีที่สุด เพื่อคุณผู้ใช้บริการโดยเฉพาะ


รถรับจ้างขนของจังหวัดลำปาง ทำไมถึงได้เป็นผู้นำการบริการ

รถรับจ้างขนของจังหวัดลำปาง ของเราถือได้ว่าเป็นผู้นำในเรื่องรถรับจ้างที่หลากหลายและมีขนาดใหญ่โดยมีรถรับจ้างจำนวนหลายประเภทไว้คอยให้บริการพร้อมทีมงานที่ผ่านการฝึกฝนและมีประสบการณ์การทำงานกันทุกคน เรียกว่าได้รับคำชมจากผู้ใช้บริการอย่างมากมาย โดยเสียงชื่นชมต่างกล่าวว่า ที่นี่ทำงานดี ส่งถึงจุดหมายปลายทาง วันหลังจะมาใช้บริการอีก ซึ่งทางรถรับจ้างขนของจังหวัดลำปางน้อมรับคำชมด้วยความขอบคุณยิ่ง


ประสิทธิภาพสูงกับรถรับจ้างขนของจังหวัดลำปาง

รถรับจ้างขนของจังหวัดลำปางเป็นหนึ่งเรื่องความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยสามารถเสร็จงานได้ตามเวลาที่กำหนดและไม่มีข้าวของแตกหักหรือสูญหายระหว่างทางแต่อย่างใด เพราะรถรับจ้างขนของจังหวัดลำปางมีระบบป้องกันและเซฟของเป็นอย่างดีในรถแต่ละคัน คุณจึงหายห่างเมื่อใช้บริการกับรถรับจ้างขนของจังหวัดลำปาง


รถรับจ้างขนของจังหวัดลำปางให้บริการอย่างมืออาชีพ

รถรับจ้างขนของจังหวัดลำปาง เราให้บริการอย่างมืออาชีพเพราะทำงานกันมานาน รับใช้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดลำปางจนเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ทั้งการบริการและเรื่องราคาที่ถูกและเป็นกันเองด้วยอัธยาศัยไมตรี ซึ่งใครได้ใช้บริการรถรับจ้างขนของจังหวัดลำปางต่างประทับใจและเมื่อมีโอกาสก็มักจะเรียกใช้ บริการรถรับจ้างขนของ จังหวัดลำปางด้วยดีเสมอมา

ความพร้อมของรถรับจ้างจังหวัดลำปางของเรา

รถรับจ้างจังหวัดลำปาง มีการฝึกสอนทีมงานที่เข้ามาใหม่ให้รู้จักวิธีการขึ้นของและมัดของอย่างไรให้ปลอดภัย โดยพี่เลี้ยงจะเป็นรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์คอยฝึกให้อย่างใกล้ชิด จนกลายเป็นมืออาชีพไปในที่สุด จึงเห็นได้ว่ารถรับจ้าง เราเน้นเป็นพิเศษทั้งเรื่องคนเรื่องการบริการ อีกทั้งยังดูแลรักษารถรับจ้างทุกคันให้พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา

คุณสามารถติดต่อเราได้ง่ายๆและได้ทุกวัน เรามีผู้คอยประสานงานและมีเจ้าหน้าที่คอยรับบริการเบื้องต้น เสนอราคา สอบถามรายละเอียดการขนย้าย การนัดวันเวลาการขนย้าย ท่านสามารถโทรหาเราได้เลย


อยากรู้เรื่อง รถรับจ้าง ราคารถ สอบถามมาเลย เรายินดีให้ข้อมูล

จุดจอดรถและจุดให้บริการ รถรับจ้างขนของลำปาง ในจุดต่างๆ

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ เมืองลำปาง

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ เกาะคา

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ งาว

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ แจ้ห่ม

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ เถิน

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ แม่ทะ

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ แม่พริก

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ เมืองปาน

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ แม่เมาะ

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ วังเหนือ

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ สบปราบ

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ เสริมงาม

รถรับจ้างขนของทั่วไป ย้ายบ้าน ส่งสินค้าอำเภอ ห้างฉัตร

ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านจากใจ ขนส่งด้วยนะคะ บริการ รถรับจ้างขนของจังหวัดลำปาง ของเราสัญญาว่าจะดูแลสินค้าของท่านให้ดีที่สุด คุ้มค้ากับเงินของท่านให้มากที่สุด ขอบคุณนะคะ

รถรับจ้างขนของเชียงใหม่ รถรับจ้างขนของจังหวัดลำปาง กับการบริการรับจ้างขนของเป็นเลิศ  อ่านบทความเพิ่มเติมคลฺิ๊กที่นี่ https://www.rodrubjang-youservice.com/category/105

42

ความดันโลหิต คืออะไร?

ความดันโลหิต หมายถึง แรงดันของกระแสเลือดที่กระทบต่อผนังหลอดเลือดแดงที่เกิดจากการสูบฉีดเลือดของหัวใจ ส่วน ‘ความดันโลหิตสูง’ มีสาเหตุมาจากการที่หลอดเลือดแดงเสื่อมสภาพ ซึ่งนำไปสู่ภาวะการแข็งตัวและการตีบตันของหลอดเลือด ภาวะนี้เป็นตัวบ่งชี้ที่สัมพันธ์กับการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไต และโรคอื่นๆ ในระบบการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด ทั้งนี้ ความดันโลหิตสูงอาจเกิดจากพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสม การออกกำลังกายที่ไม่เพียงพอ การมีน้ำหนักตัวที่มากเกินไปหรือเป็นโรคอ้วน การสูบบุหรี่ รวมถึงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ

เป็น “โรคความดันโลหิตสูง” หรือยัง วัดจากอะไร?

การจะรู้ว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูงหรือไม่นั้น ต้องวัดความดันโลหิตด้วยเครื่องวัดความดัน โดยค่าความดันที่ได้จะมีอยู่ 2 ค่า คือ

    ค่าความดันตัวบน ซึ่งเกิดจากแรงดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัว
    ค่าความดันตัวล่าง ซึ่งเกิดจากแรงดันโลหิตขณะหัวใจคลายตัว

เกณฑ์ความรุนแรงของภาวะความดันโลหิตสูง ในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปี ขึ้นไป

ประเภท                                              ความดันโลหิตตัวบน (mm/Hg) และ ความดันโลหิตตัวล่าง (mm/Hg)

ความดันโลหิตปกติ                                 < 120 และ < 80

ความดันโลหิตปกติที่ค่อนไปทางสูง              120-129 และ < 80

ความดันโลหิตสูงระดับที่ 1                        130-139 และ/หรือ 80-89

ความดันโลหิตสูงระดับที่ 2                        ≥ 140 และ/หรือ ≥ 90

ความดันช่วงบนสูงเดี่ยว                             ≥ 140 และ < 90


วิธีลดความเสี่ยงการเกิดโรคความดันโลหิตสูง


การดูแลตนเองเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคความดันโลหิตสูง สามารถทำได้โดยการใส่ใจสุขภาพและลดพฤติกรรมบางอย่าง เช่น


การกินอาหาร

    ลดการกินอาหารโซเดียมสูง เช่น อาหารแปรรูป อาหารปรุงสำเร็จ เบเกอร์รี และพิจารณาฉลากโภชนาการก่อนซื้อ โดยเลือกชนิดที่มีโซเดียมต่ำ สำหรับการปรุงอาหารเองควรลดการใส่เครื่องปรุงรสต่างๆ
    ลดการกินอาหารไขมันสูง เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน อาหารทอดหรือผัดน้ำมัน กะทิ โดยไม่ควรกินเกิน 30% ของปริมาณอาหารในแต่ละมื้อ และควรเลือกใช้น้ำมันที่ดีต่อสุขภาพในการประกอบอาหาร เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว
    ลดการกินอาหารน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน น้ำหวานชงดื่ม ไอศกรีม ผลไม้รสหวาน เพราะน้ำตาลส่วนเกินจะถูกเก็บสะสมไว้ในรูปของไขมัน ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะไขมันในเลือดสูงและนำไปสู่การเกิดโรคความดันโลหิตสูงได้ในที่สุด 
    เพิ่มการกินผักและผลไม้ไม่หวานให้มากขึ้น โดยให้มีสัดส่วนเป็นครึ่งหนึ่งในแต่ละมื้ออาหาร


การออกกำลังกาย

การออกกำลังกาย มีส่วนสำคัญอย่างมากในการป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง เช่น

    การออกกำลังกายแบบแอโรบิก (aerobic exercise) ไม่ว่าจะเป็นการเดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ หรือเล่นกีฬาชนิดต่างๆ ที่มีการกระตุ้นให้หัวใจทำงานหนักกว่าปกติอย่างต่อเนื่องมากกว่า 20 นาทีขึ้นไป เพราะจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับหลอดเลือดและกล้ามเนื้อหัวใจ จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูงได้
    การออกกำลังกายแบบโยคะ (yoka exercise) นอกจากจะช่วยสร้างความสมดุลให้กับร่างกายแล้ว ยังช่วยลดความเครียด ซึ่งส่งผลดีต่อหลอดเลือดและความดันโลหิต

ทั้งนี้ ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอให้ได้อย่างน้อย 3-5 ครั้ง หรือรวม 150 นาทีต่อสัปดาห์ เพราะจะช่วยทั้งในเรื่องการควบคุมน้ำหนัก การลดระดับน้ำตาลในเลือด และการลดความดันโลหิต สำหรับผู้ที่จะเริ่มต้นออกกำลังกายหลังจากหยุดไปนาน โดยเฉพาะผู้มีโรคประจำตัวหรือผู้สูงวัย ควรได้รับการตรวจสุขภาพและปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงต่ออันตรายที่อาจเกิดขึ้น


งดการสูบบุหรี่

เพราะการสูบบุหรี่ เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบของหลอดเลือดที่นำไปสู่การตีบตันของหลอดเลือด โดยเฉพาะสารติโคติน (nicotine) ในบุหรี่ จะทำให้หลอดเลือดหดตัว สูญเสียความยืดหยุ่น จนทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ให้เพียงพอ จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้


งดการดื่มแอลกอฮอล์

เพราะการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนแอลโดสเตอโรน (aldosterone) สูงขึ้น ทำให้ร่างกายมีการสะสมน้ำและโซเดียมมากกว่าปกติเป็นประจำ จนในที่สุดก็จะเกิดโรคความดันโลหิตสูงได้ ดังนั้น หากจำเป็นต้องดื่มเพื่อเข้าสังคม ในแต่ละวันผู้หญิงไม่ควรดื่มเกิน 1-2 หน่วย และผู้ชายไม่ควรดื่มเกิน 2-3 หน่วย โดย 1 หน่วยจะเท่ากับ 12 ออนซ์ของเบียร์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ 5% หรือ 5 ออนซ์ของไวน์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ 12%

โดยทั่วไปแล้ว ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ จะป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุและไม่มีอาการเตือนล่วงหน้า ทำให้กว่าจะพบโรคก็อาจเป็นในระยะที่รุนแรงแล้ว เราทุกคนจึงควรดูแลตัวเองด้วยการกินอาหารที่เหมาะสม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และงดหรือลดปัจจัยต่างๆ ที่จะก่อให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง รวมถึงควรตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อให้รู้เท่าทันความเสื่อมของร่างกาย และรู้ว่าเรากำลังมีความเสี่ยงของโรคอะไรอยู่บ้าง จะได้รีบป้องกันหรือทำการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ


วิธีลดความเสี่ยงการเกิดโรคความดันโลหิตสูง อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/disease-conditions/247

43
ตั้งแต่อดีตสู่ปัจจุบัน มีการพัฒนาเป็นอย่างมากสำหรับการรักษาและนวัตกรรมด้านทันตกรรม โดยเฉพาะ การรักษาด้วยการจัดฟัน ซึ่งถือว่ามีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาทางด้านนี้เป็นจำนวนมากไม่แพ้การรักษาทันตกรรมด้านอื่นๆ

ซึ่งนวัตกรรมด้านการจัดฟัน ถือว่าเติบโตรวดเร็วจากการวิจัยและศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทราบว่าการรักษาทางทันตกรรมด้วยวิธีการจัดฟันนั้น มีข้อดีต่างๆมากมาย แต่ต้องขอบอกเลยว่าแม้การรักษาด้วยการจัดฟันนั้นจะเป็นวิธีที่ดีมากๆเพียงใดก็ตามแต่หากว่าท่านไม่ดูแลรักษา หรือทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างเคร่งครัด ท่านก็อาจจะมีโอกาสเสี่ยงต่างๆได้เช่นกัน

ซึ่งในวันนี้ทางด้าน Clinic ผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมกว่า 15 ปี โดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง จะขอมาอธิบายถึงอาการแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการจัดฟัน เพื่อให้รู้จักป้องกันและแก้ไข โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

อาการแทรกซ้อนจากการจัดฟัน ?

ต้องขอบอกเลยว่า การรักษาไม่ว่าจะรักษาอะไรก็ตาม จะต้องมีปัจจัยเสี่ยงอยู่เสมอ เพราะ ไม่มีการรักษาใดๆในโลกที่มีแต่ข้อดี 100% ทุกการรักษาต้องมีปัจจัยเสี่ยงและข้อจำกัดด้วยกันทั้งสิ้น ผู้ที่จะเข้ารับการรักษาจึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องศึกษาปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ดังต่อไปนี้

– มีความเสี่ยงในการเกิดฟันผุ โรคเหงือก และที่พบมากคือการเกิดจุดด่างขาวบนผิวเคลือบฟัน ซึ่งอาการเหล่านี้มักเกิดจากการที่ผู้ป่วยรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากเกินไป และไม่ได้ทำความสะอาดด้วยวิธีที่ถูกต้องอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้แม้ว่าไม่ได้ทำการจัดฟันก็เกิดขึ้นได้ แต่ต้องยอมรับว่าผู้ที่ใส่อุปกรณ์จัดฟันจะมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น

– ในผู้ป่วยที่ทำการรักษาด้วยการจัดฟันบางราย อาจจะเกิดปัญหารากฟันลดลงในขณะที่ทำการจัดฟัน ซึ่งโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่จะไม่มีผลกระทบใดๆต่อประสิทธิภาพการบดเคี้ยวอาหาร

– อย่างที่ทราบกันดีว่าการจัดฟันเป็นการบังคับให้ฟันเคลื่อนที่ไปอยู่ในจุดที่ต้องการ แต่การเคลื่อนฟันนั้นอาจจะส่งผลกระทบต่อเหงือกและสุขภาพของกระดูกที่ลองรับฟันของบางคนที่ดูแลสุขภาพฟันหรือกำจัดจุลินทรีย์ในช่องปากไม่หมด ช่องปากไม่สะอาด ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาการเหงือกอักเสบได้

– หลังจากที่จัดฟันเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ควรใส่เครื่องมือคงสภาพฟันอย่างสม่ำเสมอ เพราะหากว่าละเลยอาจจะส่งผลให้เกิดฟันผิดรูปดังเดิมได้ ซึ่งรวมถึงพฤติกรรมบางอย่างเช่น การหายใจทางปาก การเล่นดนตรีเครื่องเป่าเป็นประจำ การงอกขึ้นของฟันคุด เป็นต้น และพฤติกรรมเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทันตแพทย์ไม่สามารถควบคุมได้

– ในบางกรณีอาจจะส่งผลถึงข้อต่อขากรรไกร ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการปวดที่ข้อต่อดังกล่าว รวมถึงปวดศีรษะ ปวดในหู ซึ่งหากว่ามีอาการเหล่านี้ควรรีบบอกทันตแพทย์โดยด่วน

– สำหรับผู้ป่วยที่เคยประสบอุบัติเหตุเกี่ยวกับฟัน หรือเคยมีฟันผุลึกมากๆ การเคลื่อนตัวของฟันในขณะที่จัดฟันอาจจะมีผลกระทบต่อเส้นประสาท ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำให้ทำการรักษารากฟันให้เป็นปกติเสียก่อน

– เครื่องมืออุปกรณ์จัดฟัน อาจส่งผลให้เกิดการระคายเคือง หรืออาจจะเกิดแผลบริเวณเหงือก แก้ม และริมฝีปากได้ ซึ่งถือว่าเป็นปกติ

– อุปกรณ์จัดฟันอาจจะมีโอกาสเสี่ยงในการหลุดได้ในบางราย ซึ่งหากว่าอุปกรณ์จัดฟันหลุดหรือหัก ให้รีบเข้าพบทันตแพทย์ผู้ที่ทำการรักษาโดยด่วน

– ในผู้ป่วยที่จัดฟันเพื่อแก้ไขการซ้อนเก จำเป็นที่จะต้องถอนฟันบางซี่ออกเสียก่อน เพื่อแก้ไขการไม่สมดุลของโครงสร้างขากรรไกร

– ไม่อาจกำหนดระยะเวลาในการจัดฟันได้แน่นอน ขึ้นอยู่กับการเจริญเติบโตของกระดูกที่น้อยหรือมากกว่าปกติ ความร่วมมือของผู้ป่วยที่เข้ารับการจัดฟัน การรักษาความสะอาดในช่องปาก การผิดนัดหมายของทันตแพทย์ ล้วนแต่มีผลกับระยะเวลาในการจัดฟันทั้งสิ้นการที่ใช้เวลาเพิ่มมากขึ้นในการรักษา ส่งผลต่อผลการรักษาด้วยเช่นกัน

 

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็คือ อาการแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้หรืออาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ตัวผู้ป่วยในเรื่องของการดูแลรักษาความสะอาด และระเบียบวินัยต่างๆนั่นเองที่จะช่วยลดโอกาสการเกิดอาการแทรกซ้อนเหล่านั้นได้




อาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ จากการจัดฟัน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

44
โน้ตบุ๊กหลายๆ แบรนด์ในยุคนี้เริ่มขยับมาใช้จอพาเนล OLED กันมากขึ้นแล้วนะครับ เนื่องจากให้การแสดงผลที่ดีกว่าพาเนลแบบ IPS เพราะเม็ดพิกเซลของพาเนลสามารถเปล่งแสงได้ด้วยตัวเอง เช่น ถ้าส่วนไหนเป็นภาพส่วนมืด ก็จะไม่เปล่งแสงออกมา ทำให้แสดงผลออกมาได้มืดสนิท และถ้าแสดงผลส่วนมือมาก ทำให้ประหยัดพลังงานไปมากขึ้น แต่ทางกลับกัน ถ้าแสดงผลส่วนสว่างอย่างสีขาวมาก ก็จะใช้พลังงานมากขึ้นตาม นอกจากนี้ยังเหมาะกับคนทำงานสายกราฟิกหรือแต่งรูปด้วย เพราะให้ขอบเขตสีที่กว้างมากๆ อย่าง DCI-P3 ทำให้สีตรงตามมาตรฐาน
 
หากใครทำงานที่ต้องเน้นสีสันสดใส หรือนำไปรับชมความบันเทิงก็ตอบโจทย์ครับ และวันนี่จะมาแนะนำโน้ตบุ๊กจอ OLED ราคาจับต้องได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาทกันครับ จะมีรุ่นไหนน่าสนใจ บ้างเราไปดูกันครับ 
 
1. Asus Vivobook 15X D3504YA-L1707WS (ราคาปัจจุบัน 23,490 บาท)

Asus Vivobook 15X D3504YA-L1707WS (ราคาปัจจุบัน 23,490 บาท)
เป็นโน้ตบุ๊กจอ OLED ที่ราคาน่าสนใจครับ เพราะเป็นรุ่น Vivobook มีหน้าจอใหญ่ 15 นิ้ว พาเนล OLED ความละเอียดสูง 2.8K, 60Hz, 100% DCI-P3 ขอบเขตสีกว้างมาก รองรับ VESA CERTIFIED Display HDR True Black และ PANTONE Validated ทำให้แสดงผลสีสีนได้สมจริง ด้านซีพียูใช้เป็น AMD Ryzen 7 7730U รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นรหัส U จะรุ่นเน้นประหยัดพลังงาน เหมาะกับการใช้ทั่วไป, งานเอกสาร, ทำพรีเซนต์ หรือ Adobe photoshop, Canva ได้ มีแรม 16GB, SSD 512GB 
ตัวเครื่องบางเบามีน้ำหนัก 1.6 kg ถือว่าไม่หนักจนเกินไป มี NumPad มาให้ ด้าน Webcam ความละเอียด 720p อาจจะน้อยไปเล็กน้อย แต่ว่าพอใช้ได้ครับ มี privacy shutter สามารถปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวได้ พร้อมรองรับสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคหน้าจอ
สเปก Asus Vivobook 15X D3504YA-L1707WS
- หน้าจอ: 15.6" OLED 2.8K (2880x1620) 60Hz, 100% DCI-P3, VESA CERTIFIED Display HDR True Black 600, 1.07 billion colors, PANTONE Validated
- CPU: AMD Ryzen 7 7730U (2.00 GHz up to 4.50 GHz, 16MB L3 Cache) 8 P-Cores / 16 Threads
- GPU: AMD Radeon RX Vega 8
- RAM: 16GB DDR4 3200Mhz
- Storage: SSD 512GB PCIe M.2 Gen 3
- พอร์ตเชื่อมต่อ
       1x USB 2.0 Type-A
       2x USB 3.2 Gen 1 Type-A
       1x USB 3.2 Gen 1 Type-C
       1x HDMI 1.4-out
       1x Headphone/mic combo
- Webcam: HD 720p With privacy shutter
- Battery: 3-Cell Li-ion, 50WHrs, 65W AC Adapter, Support PD Charge
- Wi-Fi 6E
- Bluetooth 5.3
- รองรับสแกนลายนิ้วมือ
- Weight: 1.6 kg
- Windows 11 Home
- ประกัน 2 ปี


2. Asus Zenbook 14 OLED UM3402YA-KM537WS (ราคา 28,990 บาท)
สำหรับรุ่น Asus Zenbook 14 OLED เป็นรุ่นที่พรีเมียมขึ้นมาอีกครับ เน้นดีไซน์ที่เรียบหรู บางเบา พกพาได้สะดวก โดยมีน้ำหนัก 1.35 kg สามารถใส่กระเป๋าเป้สะพายเดินทางได้โดยไม่รู้สึกหนักครับ ด้านแป้นตัวเลข NumPad ไม่ได้มีเป็นปุ่มมาให้ แต่จะอยู่บริเวณ TouchPad ครับ การใช้งานอาจต้องปรับตัวเล็กน้อย เพราะไม่ได้ให้สัมผัสแบบปุ่มครับ
หน้าจอมาในขนาด 14 นิ้ว พาเนล OLED ความละเอียดสูง 2.8K รีเฟรชเรตลื่น 90Hz รองรับ VESA CERTIFIED Display HDR True Black และ PANTONE Validated ทำให้แสดงผลสีสีนได้สมจริง ด้านซีพียูมาพร้อม AMD Ryzen 5 7530U, GPU: AMD Radeon RX Vega 7 เป็นรหัส U จะรุ่นเน้นประหยัดพลังงาน เหมาะกับการใช้ทั่วไป, งานเอกสาร, ทำพรีเซนต์ หรือ Adobe photoshop, Canva ได้ มีแรม 16GB, SSD 512GB 
ด้าน Webcam ให้ความละเอียด FHD 1080p ถ่ายได้ชัด มีพอร์ต Micro SD card reader และ รองรับ Fingerprint
สเปก Asus Zenbook 14 OLED UM3402YA-KM537WS
- หน้าจอ: 14" OLED 2.8K (2880x1800) 90Hz, 100% DCI-P3, VESA CERTIFIED Display HDR True Black 600, 70% less harmful blue light
- CPU: AMD Ryzen 5 7530U (2.00 GHz up to 4.50 GHz, 16MB L3 Cache), 6 (P-Core)
- GPU: AMD Radeon RX Vega 7
- RAM: 16GB LPDDR4x
- Storage: SSD 512GB PCIe M.2 Gen 3
- พอร์ตเชื่อมต่อ
       1x USB 3.2 Type A
       2x USB 3.2 Type C
       1x HDMI
       1x Micro SD card reader
- Webcam: FHD 1080p
- Battery: 4-Cell Li-ion, 75WHrs, 65W AC Adapter, Support PD Charge
- Wi-Fi 6E
- Bluetooth 5.2
- รองรับ Fingerprint
- Weight: 1.35 kg
- Windows 11 Home
- รับประกัน 3 ปี


3. Asus Vivobook S 14 OLED S5404VA-M9570WS (ราคาปัจจุบัน 28,990 บาท)

สำหรับรุ่นนี้จะมีสเปกที่แรงขึ้นมากกว่าเพื่อนครับ ด้วยพลังซีพียู Intel Core i5-13500H, GPU: Intel Iris Xe Graphics G7 มีแรม 16 GB LPDDR5 5200Mhz, SSD 512GB PCIe M.2 Gen 4 ทำให้สามารถนำไปทำงานตัดต่อ ทำกราฟิกได้สบาย เพราะด้วยซีพียูรหัส H จะเป็นรุ่นประสิทธิภาพสูง แต่หากนำไปเล่นเกมอาจยังไม่เหมาะครับ อาจเล่นเกมที่ไม่กินสเปกได้บ้าง เพราะไม่มีการ์ดจอแยกครับ
หน้าจอมีขนาด 14.5 นิ้ว พาเนล OLED ความละเอียดสูง 2.8K รีเฟรชเรตสูง 120Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3, PANTONE Validated และมี SGS Eye Care Display ถนอมสายตา
ด้านกล้อง Webcam ให้ความละเอียด 1080p FHD รองรับสแกนลายนิ้วมือ มีช่องหูฟัง และน้ำหนักตัวเครื่องเบา 1.5 kg พกพาได้สะดวกครับ
สเปก Asus Vivobook S 14 OLED S5404VA-M9570WS
- หน้าจอ: 14.5" OLED 2.8K (2880x1800) 120Hz, 100% DCI-P3, PANTONE Validated, SGS Eye Care Display
- CPU: Intel Core i5-13500H (2.60 GHz, 18 MB L3 Cache, up to 4.70 GHz), 4 (P-Core) / 8 (E-Core) / 16 Threads
- GPU: Intel Iris Xe Graphics G7
- RAM: 16 GB LPDDR5 On Board 5200Mhz
- Storage: SSD 512GB PCIe M.2 Gen 4
- พอร์ตเชื่อมต่อ
       1x USB 2.0
       1x USB 3.2 Type A
       1x HDMI
       1x Thunderbolt 4
       1x 3.5mm Audio combo
- Webcam: 1080p FHD
- Weight:  1.5 kg
- Battery: 4-Cell Li-ion, 75Wh, 90W AC Adapter
- Wi-Fi 6E
- Bluetooth 5.1
- รองรับสแกนลายนิ้วมือ
- Windows 11 Home + Microsoft Office Home & Student 2021
- รับประกัน 2 ปี
 

4. Acer Swift Edge SFA16-41-R8KA (ราคาปัจจุบัน 25,990 บาท)

มาดูรุ่นจากทาง ACER กันบ้างครับ จัดเต็มด้วยจอความละเอียดสูงระดับ 4K ขนาดหน้าจอใหญ่ 16 นิ้ว พาเนล OLED รีเฟรชเรต 60Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 สามารถนำไปรับชมความบันเทิง ดูหนังได้อย่างเต็ฒอรรถรสเลยครับ
ด้านซีพียูเป็น AMD Ryzen 5 6600U, GPU: AMD Radeon 660M มีแรม 16GB LPDDR5 On Board 6400Mhz, SSD  1TB PCIe M.2 Gen 4 สามารถใช้งานทั่วไปได้ดี เช่น งานเอกสาร, ดูหนัง ฟังเพลง, ทำงานกราฟิก ถ้านำไปเล่นเล่นเกมก็สามารถเล่นเกมไม่กินสเปกได้บ้างครับ
ด้านกล้องมีความละเอียด 1080p FHD คมชัด มีช่องหูงฟัง 3.5 มม. รองรับสแกนลายนิ้วมือ และตัวเครื่องมีน้ำหนักที่เบามาก 1.17 kg เหมาะกับคนที่พกพาเดินทางทุกวันครับ
สเปก Acer Swift Edge SFA16-41-R8KA
- หน้าจอ: 16" OLED 4K (3840x2400) 60Hz, 100% DCI-P3, TÜV RHEINLAND Eyesafe
- CPU: AMD Ryzen 5 6600U (2.90 GHz up to 4.50 GHz, 16MB L3 Cache), 6 (P-Core) / 12 Threads
- GPU: AMD Radeon 660M
- RAM: 16GB LPDDR5 On Board 6400Mhz
- Storage: SSD  1TB PCIe M.2 Gen 4
- พอร์ตเชื่อมต่อ
       2x USB 3.2 Type A
       2x USB 3.2 Type C
       1x HDMI
       1x 3.5mm Audio Combo
- Webcam: FHD 1080p
- Weight: 1.17
- Battery: 3-Cell Li-ion, 54Wh, 65W AC Adapter
- Wi-Fi 6E
- Bluetooth 5.2
- รองรับสแกนลายนิ้วมือ
- Windows 11 Home + Microsoft Office Home & Student 2021
- รับประกัน 3 ปี
 

5. Acer Swift Edge SFE16-42-R394 (ราคาปัจจุบัน 29,990 บาท)

รุ่นนี้ก็จัดเต็มไม่แพ้กันด้วย จอใหญ่ 16 นิ้ว พาเนล OLED ความละเอียดสูงระดับ 4K รีเฟรชเรต 60Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 นำไปทำงานกราฟิก แต่งภาพได้สบายครับ
ด้านซีพียูเป็น AMD รุ่นใหม่ Ryzen 5 7535U, GPU: AMD Radeon 660M มีแรม 16 GBLPDDR5 On Board 6400Mhz, SSD 1TB PCIe M.2 Gen 4 สามารถใช้งานทั่วไปได้สบายๆ ดูหนัง/Netflix, ฟังเพลง, ทำงานเอกสาร, ทำพรีเซนต์, แต่งภาพ, ทำงานกราฟิก ได้ดีครับ
ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบามากที่ 1.17 kg พกพาได้ง่าย มีกล้อง Webcam 1080p FHD คมชัด รองรับสแกนลายนิ้วมือ และมีช่องหูฟัง 3.5 mm
สเปก Acer Swift Edge SFE16-42-R394
- หน้าจอ: 16" OLED 4K (3840x2400) 60Hz, 400 nits, 100% DCI-P3
- CPU: AMD Ryzen 5 7535U (2.90 GHz up to 4.55 GHz, 16MB L3 Cache), 6 (P-Core) / 12 Threads
- GPU: AMD Radeon 660M
- RAM: 16 GBLPDDR5 On Board 6400Mhz
- Storage: SSD 1TB PCIe M.2 Gen 4
- พอร์ตเชื่อมต่อ
       2x USB 3.2 Type A
       2x USB 3.2 Type C
       1x HDMI
       1x 3.5mm Audio Combo Jack
- Webcam: 1080p FHD
- Weight: 1.17 kg
- Battery: 3-Cell Li-ion (54Wh), USB Type-C 65 W PD AC adaptor
- Wi-Fi 6E
- Bluetooth 5.2
- รองรับสแกนลายนิ้วมือ
- Windows 11 Home
- รับประกัน 3 ปี

สรุป
สำหรับใครที่ต้องการโน้ตบุ๊กที่เน้นสเปกหน้าจอดีๆ พาเนล OLED สีสันสวยงาม ความละเอียดสูง 2.8K - 4K ในงบไม่เกิน 30,000 บาท ก็จะมี 5 รุ่นที่แนะไปครับ ซึ่งสามารถนำไปทำงานแต่งภาพ, ทำภาพกราฟิก Artwork หรือ ใช้งานทำภาพโปรแกรม Adobe ก็ทำได้ดีครับ หากใครยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อรุ่นไหนดี เดี๋ยวจะสรุปสั้นๆ ให้อีกครั้งครับ
 
สำหรับคนที่ต้องการงบประหยัดที่สุด
- Asus Vivobook 15X D3504YA-L1707WS (ราคาปัจจุบัน 23,490 บาท)
 
สำหรับคนที่ต้องการหน้าจอคมชัดและน้ำหนักเบาที่สุด
- Acer Swift Edge SFA16-41-R8KA (ราคาปัจจุบัน 25,990 บาท)
- Acer Swift Edge SFE16-42-R394 (ราคาปัจจุบัน 29,990 บาท)
ได้หน้าจอ 4K
 
สำหรับคนที่ต้องการหน้าจอรีเฟรชเรตลื่น
- Asus Vivobook S 14 OLED S5404VA-M9570WS (ราคาปัจจุบัน 28,990 บาท)
ได้หน้าจอรีเฟรชเรต 120Hz
Asus Zenbook 14 OLED UM3402YA-KM537WS (ราคา 28,990 บาท)
ได้หน้าจอรีเฟรชเรต 90Hz
 
สำหรับคนที่ต้องการรุ่นที่ตัดต่อวิดีโอได้
- Asus Vivobook S 14 OLED S5404VA-M9570WS (ราคาปัจจุบัน 28,990 บาท)
ใช้ซีพียู Intel Core i5-13500H
 

mobile expo 2024: ชี้เป้า 5 โน้ตบุ๊กจอ OLED สีสวย คมชัด 2K - 4K ในงบไม่เกิน 3 หมื่น! อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/mobileexpo/

45
การสูบบุหรี่เป็นการทำลายสุขภาพเป็นอย่างมาก และยังทำลายสุขภาพช่องปากของคุณด้วย เพราะจะส่งผลต่อเหงือกและฟัน ทำให้เหงือกร่นและฟันเปลี่ยนสี ซึ่งจะทำให้เสียบุคลิกภาพด้วย การสูบบุหรี่ ถือเป็นการทำลายสุขภาพโดยตรง และยังส่งผลต่อการรักษาช่องปากอีกด้วย อย่างเช่น การฝังรากฟันเทียม คนที่สูบบุหรี่ก็เป็นข้อจำกัดอย่างหนึ่งในการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม รวมไปถึงการจัดฟันอีกด้วย

การจัดฟันแบบ fastbraces ถือเป็นการจัดฟันแบบเร่งด่วน โดยใช้นวัตกรรมของเครื่องมือการจัดฟัน ที่จะใช้แรงที่เบามาก ช่วยให้ฟันเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆตลอดเวลา สำหรับคนที่สูบบุหรี่ ที่ต้องการจะเข้ารับการจัดฟันแบบเร่งด่วน ให้งดการสูบบุหรี่เสียก่อน ก่อนที่เข้ารับการรักษาและในช่วงเวลาของการจัดฟัน เพราะการสูบบุหรี่อาจจะส่งผลต่อรากฟันและฟัน ขณะทำการจัดฟันอยู่ อาจจะทำให้ผลการรักษาคลาดเคลื่อนได้

ทั้งนี้ หากต้องการเข้ารับการจัดฟันแบบ fastbraces ควรเข้ารับคำปรึกษาจากทันตแพทย์อย่างละเอียด โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติสูบบุหรี่ ควรเข้ารับคำแนะนำจากทันตแพทย์ เพื่อที่จะได้วางแผนการรักษา เพื่อให้ผลการรักษาเกิดอัตราความสำเร็จมากขึ้น โดยทางคลีนิคเรามีทีมทันตแพทย์ที่เชี่ยวชาญในเรื่องของการจัดฟัน และเรื่องของรากฟัน มีประสบการณ์การรักษามาอย่างยาวนาน จึงทำให้คุณมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในการเข้ารับการบริการ



ค่าใช้จ่าย ! ในการจัดฟันแบบ “fastbraces”

การจัดฟันแบบ จัดฟัน fastbraces ถือเป็นการจัดฟันแบบเร่งด่วน ใช้ระยะเวลาในการจัดฟันเพียงแค่ 3 เดือน – 1 ปี เท่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพช่องปากและฟันของผู้เข้ารับการรักษา โดยการจัดฟันแบบเร่งด่วนนี้ ได้รับความนิยมกันอย่างมาก เพราะมีข้อดีที่ประหยัดเวลา และได้ผลเร็ว รวมไปถึงทำให้มีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติในระยะเวลาที่สั้น และมีความเจ็บน้อยกว่าการจัดฟันแบบทั่วไป เพราะการจัดฟันแบบ fastbraces ไม่จำเป็นต้องถอนฟัน

ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันแบบ fastbraces ถือว่ามีราคาที่ไม่แพงมาก โดยอยู่ที่ประมาณ 60,000 – 90,000 บาท ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของการรักษา ซึ่งการจัดฟันแบบเร่งด่วนนี้ใช้นวัตกรรมเครื่องมือการจัดฟัน ที่สามารถกระตุ้นการปลูกกระดูกด้วย ใช้แรงที่เบามาก จนผู้ที่เข้ารับการจัดฟันไม่รู้สึก ซึ่งเครื่องมือเป็นรูปสามเหลี่ยม ที่ช่วยลดแรงเสียดทาน เคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันไม่รู้สึกเจ็บปวก

ทางคลีนิค เรามีบริการการจัดฟันแบบ fastbraces โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของการจัดฟัน ผ่านการอบรมมาเฉพาะด้าน มีประสบการณ์เกี่ยวกันการจัดฟันแบบ fastbraces มาอย่างยาวนาน หากสนใจสามารถเข้ารับคำแนะนำจากทันตแพทย์ได้ และสามารถสอบถามเรื่องของค่าใช้จ่ายในการรักษาได้ด้วย เพื่อให้ผู้เข้ารับการรักษา ไม่ต้องกังวลเรื่องของค่าใช้จ่ายในการจัดฟันแบบ fastbraces รับรองได้ว่าคุณจะต้องประทับใจเป็นอย่างมาก



ควรระวัง ! การจัดฟันแบบ fastbraces ในผู้ที่สูบบุหรี่ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 44























































รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ

smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า